“บิ๊กโจ๊ก” จ่อฟัน ตม. 80 นาย เอื้อทุนจีนสีเทา ไม่เว้นเพื่อนร่วมรุ่น

“บิ๊กโจ๊ก” ชี้เจ้าหน้าที่ ตม. 80 ราย เหลือสอบปากคำบางประเด็นเท่านั้น แจงเพื่อนร่วมรุ่นยศนายพล 3 นาย อยู่ระหว่างแจ้งข้อหา ย้ำพร้อมทำสำนวนให้ครบถ้วนก่อนส่ง ป.ป.ช. แจง การให้ออกจากราชการเป็นอำนาจของ ผบช.สตม. 

วันที่ 24 ม.ค.66 ที่อาคารกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ถ.แจ้งวัฒนะ กทม. พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. เปิดเผยถึงกรณี การสอบปากคำเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) จำนวน 80 ราย ว่า ขณะนี้ตนมีข้อมูลแล้ว และวานนี้ (23 ม.ค.) ได้มีการประชุมทั้งหมด เหลือเพียงการสอบปากคำในบางประเด็นเท่านั้น นอกจากนี้ ในวันจันทร์ที่ 30 ม.ค.นี้ จะมีการประชุมอีกครั้ง เพื่อดูเรื่องความครบถ้วนของประเด็น ซึ่งหากประเด็นครบถ้วน ก็จะมีการเเจ้งข้อหาแน่นอน อย่างไรก็ตาม ข้อมูลระหว่างที่ตนมีและที่จเรตำรวจมี ค่อนข้างมีความสอดคล้องกัน ซึ่งต้องเรียนว่าการดำเนินคดีทางอาญาและการดำเนินการตรวจสอบทางวินัย มีการดำเนินการคู่ขนานกัน และข้อมูลเกี่ยวกับทางคดีอาญา ก็จะมีการส่งให้ทางคณะกรรมการตรวจสอบทางวินัยเหมือนกัน ทั้งนี้ ปัจจุบันนี้เหลือไม่ถึง 10% ที่เราจะต้องตรวจสอบรายละเอียดให้ครบถ้วน

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เผยอีกว่า ส่วนกรณีของตำรวจยศนายพล 3 ท่าน ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมรุ่น ได้มีการตรวจสอบแล้ว อย่างไรก็ตาม จะมีการแจ้งข้อหาความผิดทางอาญามาตรา 157 และมาตรา 149 ถ้าเป็นตำรวจ ทั้งนี้ เมื่อมีการดำเนินคดีแจ้งข้อหาแล้ว จะส่งสำนวนไปยังคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. ซึ่งหาก ป.ป.ช. มีการส่งกลับสำนวนยืนยันให้แจ้งข้อหา จากนั้นก็จะนำสำนวนสั่งฟ้องต่ออัยการ 

สำหรับประเด็นการดำเนินการทางวินัยร้ายแรงนั้น พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เผยว่า หากทางอาญาพบความผิด และมีการแจ้งข้อหา ดังนั้น ก็ต้องดำเนินการทางวินัยร้ายแรงเช่นกัน ส่วนการจะให้เจ้าหน้าที่ทั้งหมดออกจากราชการเลยหรือไม่นั้น ตนขอแจ้งว่าในส่วนนี้จะเป็นอำนาจของผู้บังคับบัญชาระดับสูง ที่จะต้องพิจารณาว่า การอยู่ต่อของเจ้าหน้าที่ที่กระทำผิด ทำให้เกิดความเสียหายต่อรูปคดีหรือไม่อย่างไร จึงขึ้นอยู่ที่ดุลพินิจของผู้บังคับบัญชาต้นสังกัด คือ ผบช.สตม. และที่สำคัญ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. จะไม่มีอำนาจไปมีส่วนแทรกแซงในเรื่องนี้แต่อย่างใด

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *