เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 28 ก.พ. ที่ บ้านเลขที่ 46/7 ม.5 ต.ระโสม อ.ภาชี จ.พระนครศรีอยุธยา พล.ต.อ.ชินภัทร สารสิน รอง ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ท.สรายุทธ สงวนโภคัย ผบช.ปส. พล.ต.ต.คมสิทธิ์ รังไสย์ ผบก.ปส.3 นายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เจ้าหน้าที่ ป.ป.ส. ภาค 1 ร่วมกันแถลงผลการเปิดปฏิบัติการ”อินทรชิตแผลงศร” กระจายกำลังเข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย 20 จุด ในพื้นที่ภาคเหนือและภาคกลาง เพื่อกวาดล้างจับกุมขบวนการยาเสพติดรายใหญ่ 3 เครือข่าย โดยสามารถจับผู้ต้องหารายสำคัญได้รวมจำนวน 4 ราย ประกอบด้วย พร้อมยึดทรัพย์ที่ได้มาจากการค้ายาเสพติดรวมกว่า 100 ล้านบาท
พล.ต.อ.ชินภัทร กล่าวว่า ที่ผ่านมาได้สั่งการให้สืบสวนหาข่าวเครือข่ายค้ายาเสพติดในทุกระดับ เพื่อตัดวงจรการลักลอบลําเลียงยาเสพติด รวมไปถึง จับกุม และขยายผลยึดทรัพย์เครือข่ายที่เกี่ยวข้อง และการสกัดกั้นการลําเลียงยาเสพติดจากประเทศเพื่อนบ้าน ไม่ให้ เข้าสู่พื้นที่ชั้นในและในชุมชน รวมทั้งป้องกันการลักลอบส่งออกไปยังประเทศที่สาม โดยมุ่งเน้นไปที่การขยายผลกลุ่มเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติดรายใหญ่จำนวน 3 เครือข่าย ที่เคยถูกจับกุมเมื่อปี 2565 โดยเครือข่ายแรก คือ เครือข่ายนายฮ้อยทมิฬ ที่ก่อนหน้านี้ตำรวจได้จับกุมกลุ่มผู้ลําเลียงยาเสพติด 3 ราย ของ กลางยาบ้า 7,000,000 เม็ด ในพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยาและพื้นที่ใกล้เคียงหลายจุด พร้อมยึดทรัพย์ 11 ล้านบาท ก่อนขยายผลจับกุมกลุ่มผู้สั่งการในพื้นที่ภาคเหนือ 3 ราย ยึดทรัพย์สินอีก 35 ล้านบาท จากนั้นจึงรวบรวมพยานหลักฐานออกหมายจับบุคคลในเครือข่ายอีก 4 คน คือ กลุ่มผู้สั่งการในพื้นที่ภาคเหนือ 2 ราย และ กลุ่มรับยาเสพติด ซึ่งเป็นผู้ค้ายาเสพติดในพื้นที่ภาคกลาง 2 ราย
พล.ต.อ.ชินภัทร กล่าวต่อว่า เครือข่ายที่สอง คือ เครือข่ายรถบรรทุกโลจิสติกส์ ที่ก่อนหน้าได้จับกุมพนักงานของบริษัทรับขนส่งสินค้าแห่งหนึ่งในพื้นที่ภาคเหนือจำนวน 1 คน พร้อมยาบ้า 2,000,000 เม็ด ที่ด่านตรวจยาเสพติดสบปราบ จ.ลําปาง ขณะกำลังนํายาเสพติดซุกซ่อนปะปนไปกับพัสดุอื่นๆ เพื่อลําเลียงไปส่งให้กับเครือข่ายในพื้นที่ตอนใน ก่อนขยายผลจับกุม ผู้รับยาเสพติดปลายทางได้ทันที 1 ราย จากนั้นจึงรวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลออกหมายจับบุคคลในเครือข่ายอีก 3 ราย คือ ผู้สั่งการ 1 ราย และผู้ที่นํายาเสพติดมาส่งให้ผู้ต้องหาในพื้นที่ จ.เชียงราย 2 ราย ส่วนเครือข่ายที่สาม คือ เครือข่ายหนองตาโล่ หลังก่อนหน้าได้จับกุมกลุ่มลําเลียงยาเสพติด 3 ราย พร้อมไอซ์ 279 กิโลกรัม ในพื้นที่ จ.พัทลุง ก่อนจะขยายผลออกหมายจับเครือข่ายเพิ่ม 2 ราย คือ ผู้สั่งการ และผู้ทํา หน้าที่ส่งมอบยาเสพติดให้กับกลุ่มผู้ต้องหา
พล.ต.ท.สรายุทธ กล่าวว่า หลังทางบก.ปส.3 ได้รวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลออกหมายจับผู้ต้องหาทั้ง 3 เครือข่ายข้างต้น จํานวน 9 หมายจับ ได้แล้ว จึงมีการระดมกำลังเปิดปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่ 20 จุด ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่, เชียงราย, ตาก, สระบุรี และ พระนครศรีอยุธยา เพื่อตามจับกุมบุคคลตามหมายจับดังกล่าว พร้อมกับติดตามยึดทรัพย์ที่ได้มาจากการกระทำผิด เบื้องต้น สามารถจับกุมบุคคลตามหมายจับได้ 4 ราย และตรวจยึดอายัดทรัพย์สินที่คาดว่าจะเกี่ยวข้องกับการค้ายาเสพติดเพื่อนํามาตรวจสอบหลายรายการ อาทิ เงินสด, รถยนต์, รถตู้, รถแทรกเตอร์, รถประจําทาง, รถจักรยานยนต์, ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง และโฉนดที่ดิน รวม 60 รายการ มูลค่าทรัพย์สินประมาณ 100 ล้านบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังเสร็จสิ้นการแถลงข่าวแล้วนั้น ทาง พล.ต.อ.ชินภัทร ยังได้ร่วมทำการสอบปากคำ
นายชัยวัฒน์ อายุ 46 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ ที่ 623/2565 ลงวันที่ 30 ก.ย.2565 ซึ่งเป็นหนึ่งในเครือข่ายยาเสพติดหนองตาโล่ ที่เพิ่งถูกจับกุมเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาด้วยตนเอง ซึ่งจากการสักถาม เบื้องต้นนายชัยวัฒน์ ยังคงให้การปฏิเสธ อ้างว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติดดังกล่าว ส่วนกรณีที่พบเงินสดจำนวนมากภายในบ้านนั้น อ้างว่าเป็นเงินที่เก็บไว้เตรียมใช้จัดงานบวชให้ลูกชาย แต่ทางเจ้าหน้าที่เจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อ ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน บช.ปส. ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป