14 ก.ค.66 หลังจาก นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี จากพรรคก้าวไกล ไม่สามารถผ่านความเห็นชอบของที่ประชุมรัฐสภา โดยได้คะแนนเห็นชอบ 324 ไม่เห็นชอบ 182 งดออกเสียง 199 ไม่มาลงคะแนน 44 ทำให้นายพิธาได้คะแนนไม่ถึงกึ่ง 375 จาก 749 เสียง จึงไม่ได้เป็นนายกรัฐมนตรีนั้น
ล่าสุด บนโลกโซเซียลได้ผุดแฮซแท็ก“#ธุรกิจสว”จนติดเทรนทวิเตอร์อันดับ 2 ของวันนี้ มีการนำข้อมูลกิจการของส.ว. หรือคนในครอบครัว ส.ว.ที่ลงคะแนนไม่เห็นชอบ และงดออกเสียง มาแขวนเพื่อโจมตี และแบนธุรกิจนั้นๆ บางรายก็ระบุพิกัดให้ขนทัวร์ไปลง อาทิ ธุรกิจปั๊มน้ำมัน, คลินิกของลูก ส.ว., ร้านอาหาร ,ตลาด ,โรงพยาบาลสัตว์ ,ร้านขายรองเท้า, ทีมฟุตบอล เป็นต้น โดยอ้างว่าเพื่อไม่ให้มีที่ยืนในสังคม
ขณะบางส่วนได้นำข้อมูลเงินเดือน และค่าสวัสดิการต่างๆของส.ว.มาเปิดเผย แม้แต่ส.ว.บางรายที่เดินทางไปต่างประเทศ ก็ยังโดนโจมตีด้วย นอกจากนี้ธุรกิจในครอบครัวของ 5 กกต.ก็ยังถูกขุดขึ้นมาแขวนล่อเป้า รวมทั้งนายชาดา ไชยเศรษฐ์ ส.ส.พรรคภูมิใจไทย ที่ลุกขึ้นอภิปรายนายพิธา และประกาศขวางการแก้ไขมาตรา 112 อย่างดุเดือดเมื่อวานนี้ ก็ถูกขุดประวัติของครอบครัวมาถล่มเช่นเดียวกัน