-แม้จะมีการแก้ตัวเป็นพัลวันเกี่ยวกับ “ภารกิจลับ ว.5” ของ “นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” นายกรัฐมนตรีที่ชั้น 7 ของโรงแรมโฟร์ซีซั่นส์ แต่ความจริงที่ไม่อาจปฏิเสธได้ก็คือ นางสาวยิ่งลักษณ์เดินทางไปที่ชั้น 7 ของโรงแรมแห่งนี้ในวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2555 จริง
อย่างไรก็ตาม ประเด็นสำคัญที่สังคมอยากรู้นอกเหนือจากว่า นางสาวยิ่งลักษณ์ไปทำไมแล้ว ก็คือ นางสาวยิ่งลักษณ์ไปพบกับใคร
ทั้งนี้ ในช่วงเริ่มแรกสังคมต่างก็คาดเดาถึงรายชื่อบุคคลที่น่าจะเป็นไปต่างๆ นานา
ทว่า สุดท้ายเงื่อนงำดังกล่าวก็ถูกเฉลยออกมาจากแถลงการณ์ฉบับที่ 1 ของเจ้าพ่อแชร์ชาร์เตอร์ “นายเอกยุทธ อัญชันบุตร” เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2555 ที่ระบุเอาไว้ชัดเจนหลังถูกลอบทำร้ายที่โรงแรมโฟร์ซีซั่นส์ว่า….
“หลังนายกฯเดินทางกลับ มีผู้พบเห็นนายเศรษฐา ทวีสิน นักธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ชื่อดัง ปรากฏกายในเวลาไล่เลี่ยกัน ซึ่งทำให้มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ตามมามากมาย จึงเป็นเรื่องที่นายกฯต้องชี้แจงต่อสาธารณะให้คลายความสงสัย ว่ามีผลประโยชน์ทับซ้อนใดแอบแฝงหรือไม่ เพราะนายกฯคือบุคคลสาธารณะ ขณะที่อีกฝ่ายหนึ่งคือนักธุรกิจชื่อดัง”
อย่างไรก็ตาม แม้จะไม่มีคำยืนยันหรือคำปฏิเสธออกมาจากทั้งฝ่ายนางสาวยิ่งลักษณ์และนายเศรษฐาถึงข้อสังเกตของนายเอกยุทธว่าทั้งสองคนได้ไปพบปะสนทนากันที่ชั้น 7 โรงแรมโฟร์ซีซั่นส์จริงหรือไม่ แต่ก็ส่งผลทำให้สังคมอยากรู้จักและอยากทราบเรื่องราวของ “เสี่ยนิด” บิ๊กบอสเจ้าของอสังหาริมทรัพย์ชื่อดังอย่าง “แสนศิริ” ขึ้นมาในฉับพลันทันที
**เปลือยหัวใจ-สายสัมพันธ์ “เสียนิด” บิ๊กบอสแสนสิริ
สิ่งที่ควรรู้สำหรับเศรษฐาประการแรกก็คือ ปัจจุบันเขาดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการบริษัทแสนสิริ จำกัด (มหาชน)
และสิ่งที่ควรรู้สำหรับเศรษฐาประการที่สองก็คือ เขาเป็นเพื่อนสนิทของ “โต้ง”กิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
ดังนั้น เศรษฐาจึงไม่ใช่คนอื่นไกลสำหรับรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ พรรคเพื่อไทยและคนเสื้อแดง หากแต่รู้จักมักคุ้นและมีสายสัมพันธ์ที่ดีต่อกันมาเนิ่นนาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งทัศนคติและความชื่นชอบทางการเมืองซึ่งเป็นที่รับรู้กันในทางสาธารณะว่า เสี่ยนิดนั้นสวมเสื้อสีอะไร โดยในช่วงก่อนแดงเผาเมือง บิ๊กบอสแสนสิริรายนี้ลงทุนทำเสื้อสกรีนรูปนายห้างตราดูไบไว้ด้านหน้าไปตระเวนแจกผู้คนในสนามราชกรีฑาสโมสรมาแล้ว
5 กรกฎาคม 2554
หลังพรรคเพื่อไทยได้รับชัยชนะในการเลือกตั้ง
นายเศรษฐา ทวีสิน กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) กล่าวแสดงความคิดเห็นเอาไว้ว่า น่าจะส่งผลดีต่อตลาดทุนไทย เพราะพรรคเพื่อไทยได้เสียงข้างมาก จะทำให้การบริหารงานทำได้เต็มที่ นโยบายที่ประกาศไว้ก็จะเดินหน้าทำได้ทันที
“ส่วนที่ว่าอยากขอให้ช่วยเหลือเรื่องนโยบายอสังหาฯ อะไรบ้างนั้น คงไม่ขอความช่วยเหลืออะไรเพราะอสังหาฯ ก็เดินได้ด้วยตัวเองอยู่แล้ว เพียงแต่สิ่งที่ว่าที่นายกฯ ต้องทำคือการทำงานสำคัญเร่งด่วนอย่างอื่นมากกว่า”นายเศรษฐากล่าว
นอกจากนั้น หากยังจำกันได้ในวันที่ 5 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เศรษฐาเคยปรากฏเป็นข่าวพร้อมนายกฯ ยิ่งลักษณ์มาแล้วในการแข่งขันฟุตบอลการกุศล “PRIME MINISTER CUP STREET SOCCER” การแข่งขันฟุตบอล 5 คนต้านยาเสพติด ที่สนามเทพหัสดิน กรุงเทพฯ โดยในวันนั้นมีการดวลแข้งนัดพิเศษระหว่างทีมวีไอพี ครม.กับทีมนักธุรกิจแสนล้าน
สำหรับนักเตะทีม ครม. ประกอบด้วย นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกฯ และ รมว.คลัง, นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รมว.พาณิชย์, นายวิทยา บุรณศิริ รมว.สาธารณสุข, นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รมว.คมนาคม, นายอารักษ์ ชลธาร์นนท์ รมว.พลังงาน, นายสุชาติ ธาดาธำรงเวช รมว.ศึกษาธิการ, น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รมว.เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร, นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี, นายทนุศักดิ์ เล็กอุทัย รมช.คลัง, นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.เกษตรและสหกรณ์, นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รมช.คมนาคม, นายศิริวัฒน์ ขจรประศาสน์ รมช.พาณิชย์, นายต่อพงษ์ ไชยสาส์น อดีต รมช.สาธารณสุข, ร.ท.สงกรานต์ เตชะณรงค์ โฆษกประจำกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร, นายภาคิน สมมิตร ที่ปรึกษา รมว.พาณิชย์, นายวัน อยู่บำรุง ที่ปรึกษา รมว.คมนาคม ฯลฯ
ส่วนทีมนักธุรกิจแสนล้าน นำทีมโดย นายเศรษฐา ทวีสิน กก.ผจก.ใหญ่ บมจ.แสนสิริ, นายฐาปน สิริวัฒนภักดี กก.ผอ.ใหญ่ บมจ.ไทยเบฟเวอเรจ, นายวัฒน์ชัย วิไลลักษณ์ กก.ผจก.ใหญ่ บมจ.สามารถคอร์ปอเรชั่น, นายทัศพล แบเลเว็ลด์ ปธ.เจ้าหน้าที่บริหาร บจ.ไทยแอร์เอเชีย, นายประพันธ์ พลธนะวสิทธิ์ รอง ปธ.กก.บห. บมจ.ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ ฯลฯ
ตัดภาพกลับมาที่ชีวิตส่วนตัวกันบ้าง….
เศรษฐา ทวีสิน หรือเสี่ยนิดนั้นเกิดเมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2506 ดังนั้นเขาจึงเพิ่งฉลองอายุครบ 49 ปีหลังวันวาเลนไทน์ที่เพิ่งจะผ่านไปสดๆ ร้อนๆ ส่วนด้านการศึกษาก็อยู่ในขั้นไม่บันเบา โดยจบปริญญาโทด้านการเงินจาก Claremont Graduate School สหรัฐอเมริกา จากนั้นก็เริ่มชีวิตการทำงานในปี 2529 ในตำแหน่งผู้ช่วยผู้จัดการผลิตภัณฑ์ บริษัท P&G ประเทศไทย(จำกัด) และปัจจุบันรับตำแหน่งเป็นกรรมการผู้จัดการบริษัทแสนสิริ จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทที่มีผลกำไรมากที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทย
ด้านชีวิตครอบครัวเป็นที่รับทราบกันโดยทั่วไปว่า เศรษฐาไม่ใช่หนุ่มโสด ไม่ใช่คนตัวเปล่าเล่าเปลือย หากแต่แต่งงานมีครอบครัวและมีลูกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ภรรยาของเศรษฐาเป็นแพทย์ มีชื่อว่า “พญ.พักตร์พิไล ทวีสิน” แพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ความงามด้านผิวพรรณ และคอลัมนิสต์ชื่อดัง มีบุตรด้วยกัน 3 คน หนึ่งในนั้นก็คือน้องนุ้บ-ชนันดา ทวีสิน บุตรสาวคนสุดท้องที่เคยเข้าพบนายกฯยิ่งลักษณ์และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการเมื่อวันที่ 27 กันยายน 2554 ในฐานะตัวแทนเยาวชนของยูนิเซฟประเทศไทยได้ยื่นหนังสือสนับสนุนการลงทุนในเด็กเพื่ออนาคตของประเทศไทย
ทั้งนี้ สาแหรกชีวิตส่วนตัวของเศรษฐานั้นจัดว่าไม่ธรรมดา เพราะผู้เป็นแม่สืบสายตระกูลมาจากทั้ง “ยิบอินซอย” และ “จูตระกูล” เช่นเดียวกับทางด้านพญ.พักตร์พิไลที่สืบสายตระกูล “จารุทวี” โดยผู้เป็นพี่ชายของเธอคือ “ทศพงษ์” นั้นจัดเป็นเจ้าพ่อที่ดินรายสำคัญของเมืองไทย
ส่วนความสัมพันธ์ระหว่างเศรษฐาและพญ.พักตร์พิไลผู้เป็นภรรยานั้น จิ้งจกแห่งกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ รายงานข่าวว่า เมื่อไม่ช้าไม่นานมานี้มีผู้พบเห็นศรีภรรยาของเศรษฐาบินไปอังกฤษด้วยอาการกระฟัดกระเฟียด ซึ่งไม่มีใครรู้ว่า อาการกระฟัดกระเฟียดที่ว่านั้น มีต้นสายปลายเหตุมาจากอะไร และทำไมถึงต้องลงทุนขึ้นเครื่องบินไปถึงประเทศอังกฤษ
เอาเป็นว่า ถ้าใครเจอหน้าเศรษฐาหรือคุณหมอพักตร์พิไลก็ลองสอบถามเอาเองแล้วกัน
ส่วนสายสัมพันธ์ระหว่างเสี่ยนิดกับนายกฯ ยิ่งลักษณ์ขวัญใจคนเสื้อแดงนั้น ทั้งสองคนมิอาจปฏิเสธได้ว่า ไม่รู้จักกัน หากแต่ต้องยอมรับกันเสียด้วยซ้ำไปว่า คุ้นเคยและรู้จักกันมาก่อนหน้าที่จะเกิดเรื่องที่โรงแรมโฟร์ซีซั่นส์เป็นเวลาพอสมควรแล้ว
และถ้าหากถามว่า เศรษฐาได้พบกับนายกฯ ยิ่งลักษณ์ที่ชั้น 7 โรงแรมโฟร์ซีซั่นส์จริงตามคำกล่าวอ้างของนายเอกยุทธหรือไม่ ถ้าพบจริงพบกันด้วยเรื่องอะไร และทำไมต้องไปพบกันที่ชั้น 7 เป็นเวลาตั้งนานสองนาน ก็ยังคงเป็นปริศนาต่อไปตราบใดที่ทั้งสองคนยังคงไม่ออกมาปฏิเสธหรือยืนยันความชัดเจนในเรื่องนี้
แต่ที่แน่ยิ่งกว่าแช่แป้งก็คือ เศรษฐาคือหนุ่มนักธุรกิจซึ่งเป็นที่หมายปองของสาวแก่แม่หม้ายจำนวนไม่น้อยด้วยบุคลิกที่โดดเด่นคนหนึ่ง เรียกว่าถึงพร้อมทั้งคุณสมบัติ รูปสมบัติและทรัพย์สมบัติกันเลยทีเดียว
โดยย้อนกลับไปในปี 2008 เศรษฐาได้รับการโหวตจากนิตยสาร Arena นิตยสารผู้ชายมีสไตล์จากประเทศอังกฤษ ให้เป็น Arena Men of The Year Awards 2008 ที่ได้รับการโหวตจากผู้อ่านให้เป็นหนุ่มแห่งปีร่วมกับสุทธิพงษ์ ธรรมวุฒิ, สงกรานต์ เตชะณรงค์, อนันดา เอเวอร์ริ่งแฮม, บุรินทร์ บุญวิสุทธิ์, เมทนี บูรณศิริ, ปิยวัฒน์ เข็มเพชร, คมกริช ตรีวิมล, ประหยัด มากแสง และธนกร ฮุนตระกูล
ส่วนใครที่อยากพบเสี่ยนิดนอกเวลาทำงาน แนะนำให้ไปที่ “ราชกรีฑาสโมสรฯ” หรือที่รู้จักกันในชื่อย่อๆ ว่า “สปอร์ตคลับ” ซึ่งเขามักแวะเวียนไปใช้บริการเสมอๆ โดยเศรษฐาได้รับการคัดเลือกให้เป็นหัวหน้าทีมฟุตบอลราชกรีฑาสโมสรโปโลคลับ ซึ่งเศรษฐานั่งควบเป็นหัวหน้าทีมฟุตบอลของสโมสรผู้ดีกรุงเทพฯ ทั้ง 3 ทีมคือ ทีมเอ ทีมบี และทีมเวทเทรัน ที่มีนักเตะอายุเกินกว่า40 ปีขึ้นไป
***เปลือยธุรกิจ “เศรษฐา” หนุ่มใหญ่ในฝันของสาวแก่ แม่หม้าย
ขณะที่ทางด้านธุรกิจนั้น ต้องยอมรับว่า ในบรรดาบริษัทอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของเมืองไทย คงไม่มีใครไม่รู้จัก บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ “SIRI” หนึ่งในบริษัทอสังหาฯที่มีความโดดเด่นในเรื่องของการลงทุนและการนำเสนอนวัตกรรมใหม่ๆทางด้านที่อยู่อาศัย เพื่อตอบไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคในทุกกลุ่มทุกระดับราคา ภายใต้การกุมบังเหียนของ “เศรษฐา ทวีสิน” ซึ่งสามารถผลักดันให้องค์กรเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ ทั้งในเรื่องของการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยอย่างต่อเนื่อง ยังมีการบริการในด้านการบริหารโครงการผ่าน “พลัส พร็อพเพอร์ตี้” ที่อยู่ในพอร์ต 200 โครงการ พื้นที่กว่า 6.5 ล้านตารางเมตร รวมถึงธุรกิจความงามภายใต้ชื่อ “เอส เมดิคอลสปา”
” วันนี้ เรามั่นใจว่า แสนสิริเป็นอันดับหนึ่งในแง่ของแบรนด์ที่ได้รับความไว้วางใจและมีความน่าเชื่อถือสูงสุดจากกลุ่มผู้บริโภค โดยแสนสิริจะเปิดชนกับแบรนด์ดังๆ ถ้าโครงการระดับบนก็จะชนกับโครงการบูเลอวาร์ด ของเอสซี และควอลิตี้ เฮ้าส์ ถ้าเป็นคอนโดฯราคาถูกจะชนกับศุภาลัย และ แอล.พี.เอ็น.หากเป็นต่างจังหวัดชนกับแบรนด์ท้องถิ่น ” นายเศรษฐา สะท้อนถึงวิชั่นของการรุกของแสนสิริ ผ่านการแถลงข่าวกับสื่อมวลชนเป็นครั้งแรกเมื่อปลายเดือนม.ค.ที่ผ่านมา หลังจากเงียบหายไปช่วงที่บริษัทต้องทำการเพิ่มทุนครั้งใหญ่
ตามแผนของการทำธุรกิจในปี 55 แสนสิริจะรุกตลาดที่อยู่อาศัยครอบคลุมในทุกเซกเมนต์อย่างต่อเนื่อง โดยจะมีการเปิดตัวโครงการใหม่ๆ มากถึง 44 โครงการ มูลค่าโครงการรวมกว่า 46,000 ล้านบาท แยกเป็นโครงการคอนโดฯประมาณ 19 โครงการ มูลค่ารวมประมาณ 19,000 ล้านบาท โครงการบ้านเดี่ยวประมาณ 15 โครงการ มูลค่าประมาณ 20,000 ล้านบาท และโครงการทาวน์เฮาส์ประมาณ 10 โครงการ มูลค่ารวมประมาณ 7,000 ล้านบาท โดยคาดว่าจะใช้เงินลงทุนประมาณ 24,000 ล้านบาท แยกเป็นเงินจัดซื้อที่ดิน 6,000-8,000 ล้านบาท ส่วนที่เหลือเป็นงบการก่อสร้าง
ทั้งนี้ การพัฒนาโครงการ จะยังยึดสัดส่วนของโครงการคอนโดฯ 40% บ้านเดี่ยว 40% และทาวน์เฮาส์ 20% เหมือนเดิม ขณะเดียวกันได้รุกไปตลาดต่างจังหวัด ซึ่งจากความสำเร็จทั้งในทำเลหัวหิน ที่แสนสิริเป็นเจ้าตลาดคอนโดฯตากอากาศเดิมอยู่ก่อนแล้ว รวมถึงความสำเร็จจากการรุกตลาดที่อยู่อาศัยในจ.ภูเก็ต เห็นได้จากการปิดการขายโครงการ dcondo กะทู้ ภูเก็ต โครงการแรกได้ภายในระยะเวลาเพียงครึ่งวัน ทำให้บริษัทมั่นใจและตัดสินใจรุกตลาดหัวหินและภูเก็ตอย่างเต็มรูปแบบ โดยจะเปิดตัวโครงการใหม่ที่ครอบคลุมทุกประเภทที่อยู่อาศัยและระดับราคาอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการเปิดตัวโครงการใหม่ๆ ในทำเลหัวเมืองใหญ่ เพื่อขยายฐานลูกค้าเพิ่มขึ้น อาทิ ที่เขาใหญ่ จ.นครราชสีมา, จ.เชียงใหม่ และพัทยา เป็นต้น
เมื่อรวมกับโครงการที่อยู่ระหว่างการพัฒนาที่ต่อเนื่องจากปีก่อน กลุ่มบริษัทแสนสิริจะมีโครงการที่อยู่อาศัยรองรับการขายในปี 2555 อย่างน้อยถึง 95 โครงการ ส่วนประมาณการยอดขายรวมสำหรับปี 2555 ไว้เป็นมูลค่าสูงถึงกว่า 32,000 ล้านบาท และงานแรกงานใหญ่ของการสร้างยอดขาย ทางแสนสิริจะจัดงานครั้งยิ่งใหญ่ “Sansiri Life Comes Home” ในวันที่ 17-19 ก.พ. ศก.นี้ ที่รอยัล พารากอนฮอลล์ ชั้น 5 ศูนย์การค้าสยาม พารากอน งานนี้จะเป็นตัวชูโรงสร้างยอดขายที่คาดว่าไตรมาสแรกน่าจะได้สูงถึง 10,000 ล้านบาท
โดยตามเป้าหมายแล้ว ทั้งปี แสนสิริจะมีอัตรากำไรสุทธิ 10% กำไรขั้นต้น 30% ยอดขาย 32,000 ล้านบาท และยอดรับรู้รายได้ 28,000 ล้านบาท ขณะที่แสนสิริมียอดขายรอรับรู้รายได้อยู่ในมือสูงถึง 35,000 ล้านบาท ซึ่งจะถูกบันทึกเป็นรายได้ในปี 55 ประมาณ 15,000 ล้านบาท คิดเป็น 30% ของยอดรอรับรู้รายได้ทั้งหมด
แต่ประเด็นที่น่าจับตามอง การที่หุ้นของแสนสิริดีดตัวอย่างมาก จากระดับ 1.02 บาท ปรับตัวขึ้นอย่างแรง โดยเฉพาะช่วงสิ้นเดือนม.ค.เข้าสู่เดือนแห่งความรัก ก.พ. ราคาหุ้นทะยานขึ้นมา โดยเมื่อวันที่ 15 ก.พ.55 ราคาสูงสุด 1.92 บาท ปริมาณ (หุ้น) 185,513,400 ขณะที่ ทางเศรษฐา ทวีสิน เจ้าตัวเปรยว่า ตั้งใจจะถือหุ้นแสนสิริ 24% จากที่ครอบครองแล้ว 20-21% และความคืบหน้าล่าสุด 29 พ.ย. 54 เศรษฐา แสดงความจำนงจะเข้าซื้อหุ้น จำนวน 85 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 1.18 บาท ในนามส่วนตัว
ดังนั้น จงอย่าแปลกใจที่ วันนี้ แสนสิริภายใต้การนำของเศรษฐาคือหนึ่งในบริษัทที่มีผลกำไรมากที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทย
และด้วยเหตุดังกล่าว จงอย่าแปลกใจหากเขาจะกลายเป็นชายในฝันของสาวแก่แม่หม้าย หรือสาวโสดเฉพาะเวลาผัวเผลออย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้