เช็กบิลด่วน! ปลัดกทม. ‘สั่งย้าย-พักราชการ’ นายช่างโยธาลาดกระบัง เซ่นปมรีดสินบน

กรณีนายช่างโยธาอาวุโส สำนักงานเขตลาดกระบัง ถูกตำรวจจับกุมในความผิดฐาน “เป็นเจ้าพนักงาน เรียก รับหรือยอมจะรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ เพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่งไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่, เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต” พร้อมของกลางเงินสด 50,000 บาท ได้ห้องทำงานฝ่ายโยธา สำนักงานเขตลาดกระบัง เมื่อวันที่ 5 ก.ย. 66 ที่ผ่านมา ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

จับคาหนังคาเขาช่างโยธาลาดกระบัง รีดสินบนผู้ขออนุญาตก่อสร้างอาคาร 

ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 6 ก.ย. ที่อาคารไอราวัตพัฒนา ศาลาว่าการ กทม.2 ดินแดง พล.ต.อ.อดิศร์ งามจิตสุขศรี ที่ปรึกษาผู้ว่าฯกทม. นายเฉลิมพล โชตินุชิต รองปลัดกทม. แถลงความคืบหน้าในการดำเนินการด้านวินัยกับนายช่างคนดังกล่าวว่า ขณะนี้นายขจิต ชัชวานิชย์ ปลัด กทม. ได้ลงนามคำสั่งกรุงเทพมหานคร 2748/2566 แต่งตั้งคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรง และ คำสั่งกรุงเทพมหานคร 2749/2566 ให้ข้าราชการรายดังกล่าวช่วยราชการ ที่ กองแผนงานและสาธารณูปโภค สำนักการโยธา (สนย.) ซึ่งเป็นกองที่ไม่ได้สัมผัสกับประชาชน และในวันนี้ ปลัดกทม.จะลงนามในคำสั่งพักราชการข้าราชการรายดังกล่าว ตามข้อ 85 กฎ ก.ก. ว่าด้วยการดำเนินการทางวินัย พ.ศ.2565 โดยกำหนดเวลาไม่เกิน 120 วัน และยืดระยะเวลาไม่เกิน 60 วัน ซึ่งระหว่างนั้นจะไม่ได้รับเงินเดือนแต่อย่างใดทั้งนี้ ข้อมูลจากศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านการทุจริตกรุงเทพมหานคร (ศปท.กทม.) ได้รับเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการทุจริต ซึ่งเป็นเรื่องเกี่ยวกับโยธา 40 เรื่อง แบ่งเป็นเรียกรับสินบนการขอใบอนุญาต 12 เรื่อง ใน 10 เขต / การก่อสร้างต่อเติมรื้อถอนอาคารที่ผิดกฎหมาย แต่หน่วยงานดำเนินการ ล่าช้า 7 เรื่อง / ปล่อยปละละเลย ไม่ดูแลที่สาธารณะ 2 เรื่อง / การบริหารงานบุคคล การแต่งตั้งโยกย้าย ไม่ได้บรรจุ 1 เรื่อง / การนำทรัพย์สินทางราชการไปใช้ส่วนตัว 1 เรื่อง และ เรื่องอื่นๆ เช่น ปรับปรุงพื้นถนนบริเวณทางลอดอุโมงค์ล่าช้าป้ายขนาดใหญ่ยื่นนอกอาคาร,การลงชื่อเข้างานแทนกัน และทอดทิ้งหน้าที่ราชการ เป็นต้น

ขณะนี้อยู่ระหว่างสืบข้อเท็จจริง หากเข้าข่ายทุจริต จะส่งเรื่องต่อไปยังคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบในวงราชการ (ป.ป.ป.) และสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) หากไม่เข้าข่ายทุจริต แต่มีความผิดทางวินัย จึงจะเสนอผู้ว่าฯ กทม. ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านการทุจริต กรุงเทพมหานคร (ศปท.กทม.) ดำเนินการต่อไป

ซึ่งจากข้อมูลแจ้งเรื่องร้องเรียนผ่านทราฟฟี่ ฟองดูว์ ตั้งแต่ ก.พ. – ส.ค.66 มีจำนวนเรื่องร้องเรียนทั้งสิ้น 206 เรื่อง เกี่ยวกับเรื่องของโยธา 40 เรื่อง / เทศกิจ 39 เรื่อง /

รักษาความสะอาด 36 เรื่อง และเรื่องอื่นๆที่ไม่ทราบสายงานอีก 32 เรื่อง ซึ่งจะเร่งสืบข้อเท็จจริง ส่งเรื่องดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป

รองปลัดกทม. กล่าวต่อว่า สำหรับนายช่างคนดังกล่าว เดิมทีอยู่เขตห้วยขวาง จากนั้นในปี49 -54 ได้ย้ายมาเขตลาดกระบัง พอมาปี 60 ได้ย้ายกลับมาอยู่เขตห้วยขวาง ปี61 ย้ายไปเขตลาดกระบังอีก พอปี64 ย้ายไปเขตวังทองหลาง ปี65 จนถึงปัจจุบัน กลับมาอยู่เขตลาดกระบัง ในตำแหน่งนายช่างโยธาอาวุโส

กรณีที่มีเจ้าหน้าที่บริหารงานที่เดิมเป็นเวลานานๆ หรือย้ายไปแล้วกลับมา ดังนั้นจึงจะเสนอผู้บริหารพิจารณาแนวทางการแก้ปัญหา ป้องกัน การทุจริตในลักษณะนี้ โดยเฉพาะการอยู่นาน และโยกย้าย รวมถึงระบบการขออนุญาต ที่ต้องมีการปรับแก้ไข ไม่ให้ใช้ดุลยพินิจ และเจอกับผู้ขออนุญาตเพียงสองคนต้องมีทีมเฉพาะในการดูแลเรื่องการเซ็นใบอนุญาตด้วย

พล.ต.อ.อดิศร์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาประชาชนมีการร้องเรียนไปทาง ปปท.ผ่านโทรสายด่วน 1206 และช่องทางหน่วยงานปราบปรามทุจริตอื่น ซึ่งทาง กทม.ก็มีสายด่วน 1555 แต่ประชาชนไม่เชื่อใจในการติดต่อทางนึ้ แต่ กทม.ก็มีการปราบปรามทุจริตอย่างจริงจัง นอกจากนี้ กทม.มีแพลตหทราฟฟี่ฟองดูว์ในการรับแจ้งเรื่องราวทุจริต เป็นระบบปกปิกข้อมูลข้อมูลของผู้แจ้ง ซึ่งจะส่งเข้า ศปท.กทม.โดยตรง

“อย่ากลัวที่จะให้ชื่อ และเบอร์โทรติดต่อกลับ เพราะ กทม.มีการดำเนินการปราบปรามทุจริตอย่างรวดเร็ว ไม่มีการช่วยเหลือลูบหน้าปะจมูกกันและขอให้ประชาชนไม่อดทนต่อการทุจริตคอร์รัปชั่น” พล.ต.อ.อดิศร์ กล่าวและว่า ทั้งนี้เตรียมจะเสนอต่อผู้ว่าฯกทม.ให้การเพิ่มกฎระเบียบการเอาผิดกับระดับหัวหน้า ตามลำดับชั้น หรือการเอาผิดกับผู้บังคับบัญชา ที่ปล่อยให้มีการปล่อยปละละเลย

“หัวหน้าฝ่ายโยธามีส่วนรู้เห็นหรือไม่ ทราบขั้นตอนให้บริการประชาชนหรือไม่ ทำไมถึงใช้ระยะเวลาการอนุญาตเนิ่นนาน มีการแนะนำประชาชนอย่างไร เรื่องพวกนี้ต้องมีการบันทึกเลขรับหนังสือ และต้องตอบกลับหนังสือให้ประชาชนได้ทราบถึงเหตุผล ถ้าช้าจากความบกพร่องให้ดำเนินการทางวินัย ถ้าช้าจากการเรียกรับผลประโยชน์ให้ดำเนินคดีอาญา สิ่งเหล่านี้ต้องให้ผู้บังคับบัญชาระดับ ผอ.เขตต้องเข้ามาสอดส่องดูแล” พล.ต.อ.อดิศร์กล่าว

อยากให้มีการบันทึกหนังสือผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อให้ ผอ.เขตได้ตรวจสอบว่าประชาชนมีการขออนุญาตอะไรบ้าง เมื่อเวลาครบกำหนดระบบจะมีการแจ้งเตือนว่ามีการเซ็นอนุญาต ถ้ามีความล่าช้าต้องมีการตรวจสอบในแต่ละฝ่าย ซึ่งจะปิดช่องทางการเรียกรับผลประโยชน์ได้

“ประมวลจริยธรรมมีการใช้ในราชการแล้ว ในเรื่องของครองตน ครองงาน ตัวเองใช้หลักคุณธรรมในการทำงานหรือไม่ มีหลักเกณฑ์หรือไม่ ยึดถือประชาชนเป็นศูนย์กลางหรือไม่”

อย่างไรก็ตาม ข้อสังเกตผู้ที่ถูกดำเนินคดีทุจริตระยะหลังมีอายุ 50 ปีขึ้นไป ซึ่งใกล้วัยเกษียณ ซึ่งตรงข้ามกับกับชีวิตราชการ ที่จะต้องเตรียมพักผ่อนอยู่บ้าน ไม่ใช่มาต่อสู้ดำเนินคดี หรือมาเป็นนักโทษ

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *