เมื่อวันที่ 5 พ.ย. ผูัสื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 4 พ.ย.มี่ผ่านมา “เฟสบุค Thai PBS Noth”ได้โฟสน์ข่าว ระบุว่า :”กะเหรี่ยงบีจีเอฟ.สั่งปิดชายแดนท่าขนส่งสินค้า ลั่นไม่พอใจนายตำรวจระดับบิ๊กภาค 6 ข้ามไปฝั่งเมียนมาเจรจาเก็บส่วยรายเดือนอำนวยความสะดวก พ.อ.หม่องชิตตู่ ผู้บัญชาการควบคุมพื้นที่3 กองกำลังบีจีเอฟ.หรือ กองกำลังพิทักษ์ชายแดน ซึ่งเป็นพันธมิตรกับฝ่ายทหารเมียนมา บ้านส่วยโก๊กโก่ จ.เมียวดี รัฐกะเหรี่ยง ด้านตรงข้ามบ้านวังแก้ว หมู่ที่4 ต.แม่ปะ อ.แม่สอด จ.ตาก และบ้านวังผา ต.แม่จะเรา อ.แม่ระมาด ได้ประกาศปิดท่าขนส่งสินค้าตั้งแต่วันที่ 4 พ.ย . 2566 เป็นต้นไป
คำสั่งดังกล่าวห้ามบุคคลต่างชาติ ทั้งชาวไทย และชาวจีน ข้ามไปฝั่งเมียนมาในพื้นที่ดังกล่าว ทำให้การค้าชายแดนพื้นที่ดังกล่าวหยุดชะงักลงทันที สินค้าทุกชนิดไม่สามารถไปมาได้ การปิดท่าขนส่งสินค้าครั้งนี้ สร้างความงุนงงให้กับพ่อค้าชายแดนไทย -เมียนมา ที่ส่งสินค้าไปฝั่งเมียนมา ซึ่งจะมีผลกระทบกับฝั่งไทยในเรื่องการเดินทางเข้า-ออกของราษฎรระหว่างไทย และเมียนมา ซึ่งก่อนที่จะประกาศปิดท่าขนส่งสินค้า ทางพ.ต.หม่องวิน ผบ.พัน.1018 ที่รับผิด
ชอบดูแล บ้านส่วยโก๊กโก่ รัฐกะเหรี่ยง ได้นำหนังสือไปให้ พ.อ.หม่องชิตตู่ ลงนาม และประกาศปิดพื้นที่ชายแดน เพื่อเป็นการตอบโต้การทำงานของนายตำรวจใหญ่ระดับนายพล สังกัดกองบัญชาการตำรวจภูธร ภาค 6
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หนังสือของฝ่ายกะเหรี่ยงบีจีเอฟ.ได้ระบุชื่อนายพลตำรวจไทย ได้ส่งนายตำรวจระดับพันตำรวจโท พร้อมตำรวจ ทั้งหมด 10 นาย ได้
ข้ามไปฝั่งเมียนมา ที่บ้านส่วยโก๊กโก่ เพื่อขอเรียกเก็บผลประโยชน์ในอัตราที่สูงขึ้น และต่อรองราคาไม่ได้ โดยอ้างว่าเป็นนโยบายของผู้บังคับบัญชา
ทำให้ พ.อ.หม่องชิตตู่ ไม่พอใจ เป็นอย่างยิ่ง จึงตอบโต้ด้วยการประกาศจะปิดชายแดนเป็นเวลา 3เดือนสำหรับพื้นที่บ้านส่วยโกักโก่ เป็นพื้นที่ชาวจีนลงทุน
หลายหมื่นล้านบาท มีทั้งบ่อนกาสิโน และอาคารพาณิชย์ ที่พักอาศัย สถานบันเทิงมากมาย การซื้อเครื่องอุปโภคบริโภคต้องอาศัยสินค้าจากฝั่งไทย นอกจากนี้ยังมีชาวจีนข้ามไปมา และก่อนหน้านี้ทางไทยโดยการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคได้ตัดกระแสไฟฟ้าในพื้นที่โก๊กโก่ แต่ไม่ได้ส่งผลกระทบใดๆ “เฟสบุคดังกล่าวระบุ”///ฅนข่าว อินทรีแม่สอด