จ.อุทัยธานีนายเผด็จ นุ้ยปรี นายก อบจ.อุทัยธานี พร้อมด้วยนายสัมพันธุ์ สุภาภักดี ผอ.ททท.แห่งประเทศไทย จ.อุทัยธานี นายปิติธรรม ฐิติมนตรี ที่ปรึกษาสถาบันส่งเสริมและพัฒนากิจกรรมปิดทองหลังพระ นายสิรภพ นิยมเดช นายอำเภอบ้านไร่ พ.ต.อ. อังคาร อุทัยพันธุ์ ผกก.สภ.บ้านไร่ ได้ร่วมกันแถลงข่าวว่า
อบจ.อุทัยธานี ได้ดำเนินการส่งเสริมให้ ต.แก่นมะกรูด อ.บ้านไร่ ซึ่งเป็นหมู่บ้านชาวเขาเผ่ากระเหรี่ยงและได้รับการขนานนามว่า “หนาวที่สุดกลางสยาม” ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของจังหวัดอุทัยธานี ประจำปี 2566/67 ด้วยการปรับภูมิทัศน์ของสวนพฤกษชาติให้มีควายสวยสดงดงาม ด้วยการประดับ ไม้ดอก ไม้ประดับและไม้เมืองหนาว บนพื้นที่ 8 ไร่ ตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค.2566 เป็นต้นมา เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่จะมาสัมผัสความงดงามของสวนพฤกษชาติ และความงดงามของธรรมชาติ รวมทั้งสภาพอากาศที่หนาวเย็น ในช่วงเทศกาลปีใหม่ นี้ ซึ่งมีจุดไฮไลท์ หลายแห่งที่นักท่องเที่ยวมาแล้วประทับใจ ไม่พลาดกับการถ่ายภาพ เพื่อบันทึกไว้เป็นความทรงจำที่ดี
จุดแรก แปลงพฤกษชาติ ที่ได้นำไม้ดอก ไม้ประดับและไม้เมืองหนาว นานาพันธุ์ มาปรับภูมิทัศน์ ให้มีความสวยงาม อาทิ ครอสมอส ทิวลิป คริสต์มาส ฯลฯ ที่กำลังออกดอกบานสะพรั่ง ท่ามกลางสภาพอากาศที่หนาวเย็น จุดที่สอง เป็นสะพานแห่งความโชคดี ที่ได้มีกระประดับประดาโคมไฟสี มีความสวยสดงดงามเช่นกัน จุดที่สามอุโมงค์ดอกวิสทีเรีย โดยมีแปลงไม้ดอกไม้ประดับเป็นรูปนกยุงลำแพน เป็นฉากหลัง ตั้งโดดเด่น ให้นักท่องเที่ยวถ่ายภาพได้อย่างจุใจ จุดที่สี่ บิ๊ก 7 ผู้ยิ่งใหญ่ อยู่บริเวณหน้าป้ายโครงการพื้นที่ต้นแบบบูรณาการแก้ไขปัญหาและพัฒนาพื้นที่ ต.แก่นมะกรูด ได้แก่ เสือโคร่ง เสือดาว วัวแดง สมเสร็จ ควายป่า กระทิงและช้างป่า เพื่อให้ทุกคนได้เห็นความสำคัญของสัตว์ป่าและผืนป่า
จุดที่ห้า แปลงดอกคอสมอส ที่กำลังออกดอกหลากหลายสีสัน จุดที่หก แปลงลิลลลี่และทิวลิป จำนวนนับหมื่นต้นที่กำลังเบ่งบาน อวดสายตา และจุดสุดท้ายเป็นจุดชมวิว อยู่บริเวณช่วงแรกของเส้นทางถนนสายบ้านไร่-แก่นมะกรูด เป็นจุดชมทัศนียภาพมุมสูง ที่สามารถมองเห็นความสวยสดงดงามของเทือกเขาที่สูงสลับซับซ้อนทอดตัวยาวเหยียด ซึ่งในห้วงที่สภาพอากาศหนาวเย็น ที่นี่อุณหภูมิ ต่ำสุดวัดได้ 12 องศา
นอกจากนักท่องเที่ยวจะได้ชมดอกไม้ที่มีความสวยงาม ถ่ายภาพแล้ว ยังจะได้ชิมลิ้มรสเทศกาลอาหารกระเหรี่ยง สินค้าพื้นบ้าน อาหารพื้นเมือง อีกด้วย “ เราเริ่มโครงการมาตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค.เป็นต้นมา มีนักท่องเที่ยวมาสัมผัสแล้ว 7 หมื่นคน และถ้ารวมช่วงเทศกาลปีใหม่ ที่จะมาถึง จะมีนักท่องเที่ยวมาสัมผัสไม่น้อยกว่า 1 แสนคน แต่ละรายที่มาก็จะนำเงินมาจับจ่ายใช้สอยที่ จ.อุทัยธานี 50 ล้านบาท-100 ล้านบาท เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ จ.อุทัยธานีและให้ชาวเขามีรายได้
สำหรับ ต.แก่นมะกรูด หมู่บ้านชาวเขาเผ่ากระเหรี่ยง แห่งนี้ มี 4 หมู่บ้าน มี 580 ครัวเรือน ประชากร 2,000 คน มีระดับความสูงจากระดับน้ำทะเลปานกลาง 600 เมตร ชาวบ้าน มีอาชีพปลูกพืชไร่ สภาพพื้นที่เป็นป่าสงวนแห่งชาติและมีพื้นที่ติดกับป่าอนุรักษ์เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง มีภาษา ประเพณี ศิลปวัฒนธรรมเป็นของตนเอง ก่อนที่จะมีการพัฒนาสถานที่แห่งนี้ให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยว เราได้มีการพูดคุยกันจนตกผลึกทั้ง อบจ.จังหวัดและโครงการปิดทองหลังพระ จัดทำแผนงานส่งเสริมการท่องเที่ยว เพื่อให้ชาวเขามีรายได้จากการจำหน่ายสินค้าพื้นบ้าน อาหารพื้นเมือง เพื่อหยุดยั้งการบุกรุกตัดไม้ทำลายป่า ซึ่งจะเห็นได้ว่าตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมาที่หน่วยงานได้ส่งเสริมการท่องเที่ยวขึ้น สามารถสร้างรายได้ให้กับชาวเขาได้เป็นอย่างดี
“ เชื่อไหมชาวเขาทอดกล้วยขาย มีรายได้วันละ 1 หมื่นบาท ขายจนตัวเองต้องเข้า รพ.และผู้ที่มาซื้อต้องเข้าคิว มีบางปีที่เราไม่ได้จัดส่งเสริมการท่องเที่ยว ทำให้ชาวเขาต้องขาดรายได้ ต้องออกมาเรียกร้องให้ อบจ.จัดงานอีก และในแต่ละวันจะมีนักท่องเที่ยวมาสัมผัสไม่ขาดสาย ” ดังนั้นจึงขอเชิญชวนนักท่องเที่ยวมาสัมผัสกับแหล่งท่องเที่ยว ต.แก่นมะกรูด แห่งนี้ ที่มีดอกไม้นานาพันธุ์ สภาพอากาศหนาวไม่แพ้ทางภาคเหนือ มี ระยะทางห่างจาก อ.บ้านไร่ เพียง 33 กม.เท่านั้นและหากเดินทางจาก กทม.ใช้เวลาเพียง 3 ชม. ทุกคนเข้าชมฟรี นายเผด็จ นายก อบจ.กล่าว
ด้าน นางจงจินต์ สมัครพงศ์ อายุ 62 ปี นักท่องเที่ยวชาว กทม.เปิดเผยว่า มาเที่ยวกับญาติๆ มาเป็นครั้งแรก ประทับใจในความเป็นธรรมชาติของที่นี่ ดอกไม้สวย สภาพอากาศเย็น อากาศดี ประทับใจผู้คน มีน้ำใจดี และตลอดเส้นทางได้ตื่นตาตื่นใจกับขุนเขาและเส้นทางที่ขึ้นมา โดยบางช่วงทางโค้ง บางช่วงรถไต่ระดับความสูง ตื่นเต้นดี เมื่อมาแล้ว ก็อยากจะมาท่องเที่ยวอีก
//////////////////////นายพชร พัสกุล จ.อุทัยธานี
