กรุงเทพ ตร.นครบาล บุกทลายโกดังบุหรี่ไฟฟ้าซุกโครงการสำเพ็ง 2 ฝั่งธน ยึดของกลางมูลค่ารวมกว่า 30 ล้าน

   เมื่อเวลา 13.00 น.ของวันที่ 1 มีนาคม 68 พล.ต.ต.พันลบ แอร่มหล้า รอง ผบช.น, พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิไล ผบก.สส.บชน., พ.ต.อ. อิสเรศ ปาลาพงศ์ รอง ผบก.สส.บช.น., พ.ต.อ.อรรชวศิษฎ์ ศรีบุญยมานนท์ ผกก.สส.3 บก.สส.บช.น., พ.ต.อ. ธิติพงษ์ สียา ผกก.สส.บก.น.9, พ.ต.อ. ปราโมทย์ จันทร์บุญแก้ว ผกก.สน.เพชรเกษม, พ.ต.ท.ปกรณ์ ทองช่วง พ.ต.ท.วิโรฒ จนุบุษย์ รอง ผกก.สส.3 นำกำลัง บก.สส.บช.น. ร่วมกัน นำหมายค้นศาลอาญาธนบุรี ที่ ค.63/2568 ลงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2568 เข้าทำการตรวจค้นอาคารพาณิชย์ ภายในถนนกัลปพฤกษ์ แขวงและเขตบางแค กทม. ล้างได้รับแจ้งจากสายลับว่า บ้านเลขที่ดังกล่าวมีการลักลอบนำสินค้าผิดกฎหมายลักษณะหลีกเลี่ยงกฎหมายศุลกากรเข้ามาเก็บภายในบ้านเลขที่ดังกล่าวช่วงเวลากลางคืนเมื่อวันที่ 27-28 กุมภาพันธ์ 2568 ที่ผ่านมา

   จากการตรวจค้นบริเวณชั้นล่างพบของกลางจำนวน 568 ลัง 227,200 ชิ้น มูลค่า 22,720,000 บาท ส่วนชั้น 2 พบอีก จำนวน 116,400 ชิ้น มูลค่า 11,640,000 บาทแบ่งเป็นหัวน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า จำนวน 343,600 ชิ้น และบุหรี่ไฟฟ้าชนิดพร้อมสูตร จำนวน 10,000 ชิ้น รวมมูลค่าของกลางประมาณ 30 ล้านบาท นอกจากนี้ยังควบคุมตัวชาย 1 ราย ทราบชื่อเล่นว่านายเอ อายุประมาณ 35 ปี ให้การรับสารภาพว่าปกติตัวเองทำงานรับจ้างอิสระ มีหน้าที่คนย้ายสินค้าเพียงอย่างเดียว ไม่รู้ว่าสินค้าเป็นอะไร โดยอ้างว่าทำมา 1 ครั้งและขอโทษที่มีส่วนร่วมในการขนย้ายสินค้าเหล่านี้จึงถูกนำตัวไปสอบปากคำเพิ่มเติมที่สน.เพชรเกษม

   พล.ต.ท.โชติวัฒน์ กล่าวว่าสำหรับการปราบปรามน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าเป็นนโยบายของรัฐบาลโดยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้สั่งการให้ตำรวจทุกหน่วยงานเร่งปราบปรามเมื่อวานนี้มีการประชุมร่วมกันวันนี้จึงเป็นปฏิบัติการของตำรวจสืบนครบาลร่วมกับกองกำกับการสืบสวนตำรวจนครบาล, 9 และสน. เพชรเกษม สืบทราบว่าบริเวณนี้น่าจะมีบุหรี่ไฟฟ้าซุกซ่อนอยู่ จึงขอหมายค้นของศาลอาญาธนบุรีเข้าตรวจค้นเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการขยายผลมาจากกลุ่มผู้ค้ารายย่อย

   พล.ต.ท.โชติวัฒน์ กล่าวว่า ผลการตรวจค้นพบเป็นแหล่งเก็บน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า ซึ่งมีหลายชนิดหลายกลิ่นตรวจพบของกลางกว่า 3 แสนชิ้นมูลค่ากว่า 30 ล้านบาทมีการขายทั้งการวางแผนจำหน่ายขายแต่ช่วงนี้ที่มีการปราบปรามอย่างหนักจึงหันมาเน้นขายทางช่องทางออนไลน์ทั้งนี้หากไปถึงกลุ่มเยาวชนจะมีอันตรายมากการตรวจสอบขบวนการนี้ต้องใช้เวลาพอสมควรสำหรับลักษณะการขายแบบนี้พบเป็นโกดังขนาดใหญ่จะต้องตรวจสอบต่อว่านำเข้ามาจากไหนผ่านศุลกากรหรือไม่และใครเป็นเจ้าของที่แท้จริงยืนยันจะขยายผลไปอย่างเจ้าของอย่างแน่นอน

   ฝากไปถึงเยาวชนหากมีบุหรี่ไฟฟ้าไว้ในความครอบครองก็มีความผิดในหลายมาตราเช่นพ.ร.บศุลกากรมาตรา 246 หากขายผิดประกาศกระทรวงพาณิชย์ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ตรวจยึดของกลางทั้งหมดไว้เป็นพยานหลักฐานส่วนเพื่อดำเนินการสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานขยายผลนำผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

//////////คนข่าว อินทรี อินไซต์..รายงาน

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *