จากกรณีเหตุกราดยิงกลางเมืองอุบลราชธานี ที่บริเวณลานบิ๊กซี ต.ในเมือง อ.เมือง จ.อุบลราชธานี เมื่อวันที่ 3 ส.ค. 65 ที่ผ่านมา เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต จำนวน 2 คน ได้รับบาดเจ็บจำนวน 7 คน พร้อมด้วยพนักงานสืบสวนสอบสวน และผู้ที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุม ณ ศปก.ภ.จว.อุบลราชธานี
กรณีเหตุกราดยิงกลางเมืองอุบลราชธานี ที่บริเวณลานจอดรถหน้าผับดังกล่าว ต.ในเมือง อ.เมือง จ.อุบลราชธานี เมื่อวันที่ 3 ส.ค. 65 ที่ผ่านมา เป็นเหตุให้มีผู้เสียในที่เกิดเหตุ และพบปลอกกระสุน 149 ปลอก ถูกยิงมาจากอาวุธปืนกว่า 15 กระบอก ปรากฏภาพคลิปวิดีโอซึ่งมีประชาชนที่สามารถบันทึกเหตุการณ์ในที่เกิดเหตุไว้ได้ มีลักษณะของการใช้อาวุธปืนสงคราม และอาวุธปืนอื่นๆ จำนวนหลายกระบอก กราดยิงต่อสู้กันในพื้นที่ โดยไม่สนใจว่ามีประชาชนผู้บริสุทธิ์ในบริเวณใกล้เคียงอาจได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตแต่อย่างใด
จากเหตุการที่เกิดขึ้น เป็นการก่อเหตุที่อุกอาจ ไม่เกรงกลัวต่อกฎหมายบ้านเมือง เป็นเหตุสะเทือนขวัญ ส่งผลให้ประชาชนเกิดความหวาดกลัวและหวาดระแวงต่อการใช้ชีวิตประจำวันที่ควรเป็นไปอย่างปกติสุข ทั้งทำให้ประชาชนรู้สึกไม่ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. เล็งเห็นความสำคัญในเรื่องที่เกิดขึ้น จึงมีคำสั่งตั้งคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน ประกอบไปด้วย กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง โดยกองบังคับการปราบปราม และกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 โดยกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุบลราชธานี และได้มอบหมายให้ พล.ต.อ.สุชาติ ธีรสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร. เป็นเป็นผู้ควบคุมกำกับดูแลการสืบสวนสอบสวน และมอบหมายให้ พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผู้ช่วย ผบ.ตร. เป็นหัวหน้าพนักงานสืบสวนสอบสวน โดยมี พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ท.ภาณุ บุรณศิริ ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ รรท.ผบช.ภ.3 เป็นรองหัวหน้าพนักงานสืบสวนสอบสวน ได้จัดทีมกองบังคับการปราบปราม ร่วมทีมสืบสวนบูรณาการร่วมกับตำรวจภูธรภาค 3, กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุบลราชธานี, สถานีตำรวจภูธรเมืองอุบลราชธานี, ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 3 และพิสูจน์หลักฐานจังหวัดอุบลราชธานี เร่งทำการสืบสวนสอบสวน มีผลการปฏิบัติดังนี้
1.การจับกุมตัว และออกหมายจับผู้ต้องหา
-ออกหมายจับทั้งหมด 19 คน
-จับกุมตัวผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้อง 14 คน
-หลบหนี 5 คน อยู่ระหว่างเร่งติดตามตัว
– ยังมีบุคคลเกี่ยวข้อง ซึ่งอยู่ระหว่างสืบสวนอีก ประมาน 70-80 คน หากมีพยานหลักฐานครบถ้วน
จะดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
2. ส่วนอาวุธปืนที่เหลืออีก 5 กระบอก เชื่อว่าใช้ในที่เกิดเหตุ อยู่ในระหว่างการตรวจสอบ
3. มีการปฏิบัติการ เชิงรุก การตรวจค้น จับกุม ป้องปราม
-ตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย 26 จุด ซึ่งคาดว่าเป็นจุดที่เกี่ยวข้องกับผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ อาจเป็นแหล่งซุกซ่อนอาวุธปืนสิ่งของผิดกฎหมายต่างๆ
-ตรวจยึดของกลางที่เกี่ยวข้อง และน่าเชื่อว่าเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด กว่า 30 รายการ
-นอกจากนี้ยังได้สั่งการจัดชุดเฉพาะกิจทำการตรวจสถานบันเทิงในพื้นที่เพื่อตรวจค้นสิ่งของผิดกฎหมาย และเป็นการป้องกันการก่อเหตุซ้ำและกวดขันเยาวชนไม่ให้มั่วสุม