ศาลอาญาคดีทุจริตฯสั่งจำคุกอ่วม 30 ปี”บอย ยูนิตี้”นักธุรกิจนำเข้ารถหรู กับพวก ส่วน 2 จนท.ศุลการกร คุกถ้วนหน้า ปรับหนัก 2 บริษัทนำเข้ารถหรูร่วม 300 ล้าน ริบรถหรูของกลางหลังสำแดงเท็จนำเข้ารถหรูลัมโบร์กินีฯในราคาต่ำกว่าเป็นจริงเพื่อเลี่ยงภาษีให้น้อยลง
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 24 สิงหาคม 2566 ที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติ มิชอบกลาง ถนนเลียบทางรถไฟ ตลิ่งชัน ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีเลี่ยงภาษีรถยนต์หรูรวม 5 สำนวน คือ คดีอาญาหมายเลขดำที่ อท 73, 70, 220 /2565 คดีอาญาหมายเลขดำที่ อท 154, 183/2565 คดีอาญาหมายเลขดำที่ อท 153, 195/2565 คดีอาญาหมายเลขดำที่ อท 181/2564, 52/2566 และคดีอาญาหมายเลขดำที่ อท 215/2565 ,53/2560
โดยคดีทั้ง 5 สำนวนนี้ ศาลสรุปข้อเท็จจริงตามคำพิพากษาได้ว่า บริษัทออสติน ออโต้ คาร์ส จำกัด และบริษัทเดอะ แกลเลอรี่ ออโต้ อิมพอร์ต จํากัด โดยนายยิ่ง ศรีอนันต์ น.ส.บุณฑริการ์ เตชธีรศิริ และนายอินทระศักดิ์ เตชธีรศิริ หรือบอย ยูนิตี้ นักธุรกิจนำเข้ารถยนต์หรู และเจ้าของเต็นท์รถย่านสุขุมวิทและย่านรัชดาฯ ได้หมุนเวียนสับเปลี่ยนกันเป็นกรรมการผู้มีอำนาจกระทําการแทนทั้งสองบริษัทดังกล่าว โดยขณะเกิดเหตุบริษัทออสติน ออโต้ คาร์ส จำกัด มอบอำนาจให้ตัวแทนในการนำเข้าสินค้าสำแดงรายการสินค้าที่นำเข้า เป็นรถยนต์ยี่ห้อลัมโบร์กินี รุ่นแกลลาโด้ แอลพี 560-4 โดยในความเป็นจริงสินค้าที่นำเข้าเป็นรถยนต์ ยี่ห้อลัมโบร์กินี รุ่นอเวนทาดอร์ แอลพี 700-4 อันเป็นการสำแดงการนำเข้าเท็จเพื่อให้เสียภาษีน้อยกว่า ที่ควรต้องเสีย อันเป็นการหลีกเลี่ยงภาษีเนื่องจากรถยนต์รุ่นที่นําเข้าจริงมีราคาสูงกว่ารถยนต์รุ่นที่ สำแดงในใบขนสินค้า ภายหลังเมื่อมีการตรวจปล่อยรถยนต์ไปจากเจ้าพนักงานผู้ตรวจปล่อยแล้ว ต่อมา มีการนำรถยนต์ไปขอจดทะเบียนต่อกรมการขนส่งทางบกโดยมีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงเอกสารที่เป็น ใบขนสินค้าและใบรับรองการนำเข้า (แบบ 32) ให้เป็นรถยนต์รุ่นที่นำเข้ามาจริง
การกระทำของบริษัท ออสติน ออโต้ คาร์ส จำกัด และบริษัทเดอะ แกลเลอรี่ ออโต้ อิมพอร์ต จำกัด ซึ่งมีนายยิ่ง ศรีอนันต์ น.ส.บุณฑริกา เตชธีรสิริ และนายอินทระศักดิ์ เตชธีรศิริ หรือบอยยูนิตี้ ในแต่ละสำนวนนั้น เป็นการร่วมกันกระทำ ความผิดตามพ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ. 2560 มาตรา 243, 253 และพ.ร.บ. ภาษีสรรพสามิต พ.ศ. 2527มาตรา 165 พ.ร.บ.ภาษีสรรพสามิต พ.ศ. 2560 มาตรา 208 เป็นการกระทำกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบทลงโทษตามพ.ร.บ.ศุลกากรซึ่งเป็นกฎหมาย บทที่มีโทษหนักที่สุด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90
ส่วนนายอุกฤษณ์ กลั่นเมฆ และนายไพฤทธิ์ ปิ่นโภคินทร์ ซึ่งเป็นเจ้าพนักงานศุลกากร ผู้มีหน้าที่ตรวจปล่อยรถยนต์แต่ละคันตามฟ้องที่บริษัทรถยนต์นำเข้า มอบอำนาจให้ตัวแทนนำเข้ามานั้น โดยทั้งสองคนมิได้ปฏิบัติหน้าที่ในการตรวจปล่อยตามระเบียบปฏิบัติที่กรมศุลกากรกำหนดไว้ ทั้งยังกรอก ข้อความไม่ครบถ้วนในใบรับรองการนำเข้า (แบบ 32) ที่ผู้นำเข้าจะใช้เป็นหลักฐานในการขอจดทะเบียน รถยนต์ที่นำเข้าต่อกรมการขนส่งทางบก กับมีการตรวจปล่อยรถไปโดยไม่ปฏิบัติตามคำสั่งที่ให้ ตรวจปล่อยร่วมกับหน่วยงานศุลกากรที่ได้รับมอบหมาย เป็นเหตุให้กรมศุลกากรเรียกเก็บภาษีอากรได้น้อย กว่าที่ควรจะเป็น อันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 154 (เดิม), 157 (เดิม), 162 (1)(3)(4) (เดิม) เป็นการกระทำกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบทลงโทษตามมาตรา 154(เดิม) ซึ่งเป็นกฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา
ศาลโทษตามคําพิพากษา คดีอาญาหมายเลขดำที่ 73, 70, 220/2565 จําเลยที่ 1 บริษัทออสติน ออโต้ คาร์ส จำกัด ให้ปรับ 32,443,914.68บาท จำเลยที่ 2 บริษัทเดอะ แกลเลอรี่ ออโต้ อิมพอร์ต จำกัด ให้ปรับ 32,443,914.68บาท จำเลยที่ 3นายยิ่ง ศรีอนันต์ ให้จำคุก 5 ปี จำเลยที่ 4 น.ส.บุณฑริการ เตชธีรศิริ ให้จำคุก 5 ปี จำเลยที่ 5 น.ส.รัญชยา ชาลีย ให้ยกฟ้อง จำเลยที่ 6 นายอุกฤษณ์ กลั่นเมฆ ให้จำคุก 4 ปี จำเลยที่ 7 นายอินทระศักดิ์ เตชธีระสิริ หรือบอย ยูนิตี้ จำคุก 6 ปี
คดีอาญาหมายเลขดำที่ อท.154, 183/2565 จำเลยที่ 1 บริษัทเดอะ แกลเลอรี่ ออโต้ อิมพอร์ต จำกัด ให้ปรับ 54,336,532.88บาท จำเลยที่ 2นายยิ่ง ศรีอนันต์ จำคุก 5 ปี จำเลยที่ 3 น.ส.บุณฑริการ เตชธีรสิริ จำหน่ายคดีชั่วคราว (หลบหนีก่อนให้การ จำเลยที่ 4 นายอุกฤษณ์ กลั่นเมฆ จำคุก 4 ปี จำเลยที่ 5 นายอินทระศักดิ์ เตชธีรศิริ จำคุก 6 ปี
คดีอาญาหมายเลขดำที่ 153, 195/2565 จำเลยที่ 1 บริษัทเดอะ แกลเลอรี่ ออโต้ อิมพอร์ต จำกัด ให้ปรับ 53,725,691 บาท จำเลยที่ 2 น.ส.บุณฑริการ เตชธีรศิริ (หมายจับ) จำเลยที่ 3 นายไพฤทธิ์ ปิ่นโภคินทร์ ให้จำคุก 4 ปี จำเลยที่ 4 นายอินทระศักดิ์ เตชธีรศิริ จำคุก 6 ปี
คดีอาญาหมายเลขดำที่ 181/2564, 52/2566 จำเลยที่ 1 บริษัทเดอะ แกลเลอรี่ ออโต้ อิมพอร์ต จำกัด ให้ปรับ 63 ,133,622.22 บาท จำเลยที่ 2 นายยิ่ง ศรีอนันต์ ให้จำคุก 5 ปี จำเลยที่ 3 น.ส.บุณฑริการ เตชธีรศิริ (ไม่รับฟ้อง) จำเลยที่ 4นายอุกฤษณ์ กลั่นเมฆ ให้จำคุก 4 ปี จำเลยที่ 5นายอินทระศักดิ์ เตชธีรศิริ ให้จำคุก 6 ปี
และคดีอาญาหมายเลขดำที่ 215/2565 ,53/2566 จำเลยที่ 1 นายอินทระศักดิ์ เตชธีรศิริ จำคุก 6 ปี จำเลยที่ 2 นายไพฤทธิ์ ปิ่นโภคินทร์ จำคุก 4 ปี จำเลยที่ 3 บริษัทเดอะ แกลเลอรี่ ออโต้ อิมพอร์ต จำกัด ให้ปรับ 61,506,556 บาท ริบรถยนต์ของกลาง จ่ายสินบนและเงินรางวัลตามกฎหมาย
ทั้งนี้ รวมโทษจำคุก นายอินทระศักดิ์ หรือบอยยูนิตี้ ทุกสำนวน 30 ปี ปรับบริษัทนำเข้ารถยนต์ทั้งสองร่วม 300 ล้านบาท
โดยคดีนี้ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ได้ดำเนินกระบวนพิจารณารวมระยะเวลานับตั้งแต่วันฟ้อง 11 สำนวน โดยรวมการพิจารณาเป็น 5 สำนวน 5 คำพิพากษา ใช้เวลาพิจารณาจน ถึงวันอ่านคำพิพากษาเป็นเวลา 1 ปี 4 เดือน 13 วัน