จากกรณีมีคลิปเผยแพร่ นายกิจก้อง นาคทั่ง นายกเทศบาลเมืองบางรักพัฒนา ปะทะคารมเกิดอาการหัวเสียพูดคำว่า เอากับกูเปล่า กับนายพิทักษ์ อยู่สุข กำนันตำบลบางรักพัฒนา เกี่ยวกับเรื่องการติดตั้งป้ายหาเสียงของผู้สมัครรับเลือกตั้งคณะกรรมการชุมชนหมู่บ้านบัวทอง หมู่ที่ 10 อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี
ล่าสุดเมื่อเวลา 15.00 น.วันที่ 27 กันยายน 2566 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่เทศบาลบางรักพัฒนา อำเภอบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี เพื่อสอบถามกรณีดังกล่าวกับนายกิจก้อง นาคทั่ง นายกเทศบาลเมืองบางรักพัฒนา โดยทางนายกมอบหมายให้ทางส.จ.ปิย์วรา จริยเมโธ (สจ.ปุ้ย) เขต 3 บางบัวทอง ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่า เมื่อวันที่ 24 ก.ย. 66 ที่ผ่านมา เทศบาลเมืองบางรักพัฒนาได้จัดให้มีการเลือกตั้งกรรมการชุมชน โดยทางเทศบาลเป็นคนจัด ไม่เกี่ยวข้องกับทางกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ตั้งแต่เช้าก่อนเปิดหีบทีมกำนันผู้ใหญ่บ้านใส่เสื้อปกครองมา และยืนบล็อคลูกบ้าน เพราะการแข่งขันจัดให้มี 2 ทีม คือทีมกำนันและทีมลูกบ้าน ทีมละ 7 เบอร์ กำนันเข้ามาตั้งแต่ก่อนเปิดหีบด้วยความคาดหวังว่าจะชนะการเลือกตั้งหมู่นี้ จึงลงมาดูหมู่นี้เป็นพิเศษ ตนไปถึงช่วงประมาณ 08.00 น. กว่าท่านนายกมาถึงเวลาประมาณ 10.00 น. จึงมาเห็นป้ายหาเสียงติดหน้าหน่วย ตรงประตูเข้าออกซ้ายขวา ตรงที่เช็คชื่อผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง ท่านนายกเห็นป้ายทั้ง 2 ฝั่งจึงสั่งให้นำออกหลังจากนั้นกำนันเดินมาถามว่าใครให้เอาออก เอาออกไม่ได้ ป้ายนี้เป็นของเขา นายกจึงสวนกลับไปว่าหมดเวลาหาเสียงแล้วให้เอาออก แต่กำนันยืนยันไม่เอาออก หลังจากนั้นนายกได้บอกให้กำนันออกไป เลือกการจัดการเลือกตั้งประธานชุมชนเป็นหน้าที่ของเทศบาล กำนันก็ยังไม่ออก จากช่วงเช้าที่เดินอยู่ตามลูกบ้านที่เข้าแถวและป้อนข้อมูลรวมถึงให้ลูกน้องใส่เสื้อกำนันไปรับคนมาเลือก หลังจากที่ทุกคนเห็นคลิป เป็นเรื่องที่เริ่มมีวิวาทกัน ก่อนหน้านี้นายกเห็นทีท่าไม่ดีเพราะกำนันมาวุ่นวาย จึงโทรหานายอำเภอ และได้ส่งปลัดมาที่หน้างานพร้อมโทรเรียกตำรวจสายสืบมา 2 นาย จึงเป็นคลิปที่ปล่อยออกไป หลังจากนั้นแยกย้ายกันไปต่างคนต่างอยู่ไม่ได้คุยกัน แต่เหตุการณ์วันนั้นท่านนายกโดนยั่วยุตลอด รวมถึงป่วยมาหลายวัน ทั้งคำพูดและสีหน้าหน้าตา ฝั่งเขาตั้งกล้องตลอดเวลาซึ่งก็ไม่ได้คิดว่าจะมีการทะเลาะกันเกิดขึ้น เพราะการเลือกตั้งกรรมการชุมชนถือว่าเป็นการเลือกตั้งเล็กๆ แต่ไม่รู้ว่าจะต้องนำคนมาเยอะขนาดนี้ การกระทำนี้เข้าข่ายคุกคามทั้งตนและลูกบ้านตลอดเวลาด้วย การเลือกตั้งกรรมการชุมชนไม่ได้เกี่ยวข้องกับการทำงานของกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เพราะคนละส่วนกัน
น.ส.ปุณยนาถ ชลภาสสิริ ปลัดเทศบาล กล่าวว่า ทางเทศบาลจัดให้มีการเลือกตั้งคณะกรรมการชุมชน โดยมีทั้งหมด 6 หน่วย 6 หมู่ ช่วงเช้ามีการเลือกตั้งทั้งหมด 4 หน่วย ในฐานะที่เป็นปลัดจะไปดูความเรียบร้อยทุกหน่วย แต่งตั้งให้ข้าราชการเทศบาลเป็นคณะกรรมการในการเลือกตั้งครั้งนี้ สำหรับหน่วยที่เกิดเหตุ ตนไปถึงช่วง 9 โมงกว่า เพราะ 10 โมง จะต้องปิดหีบและลงคะแนน ได้เจอกำนันซึ่งรู้จักกันแต่ไม่ได้สนิทกัน ในฐานะคนทำงานท้องถิ่นเดียวกันมีโอกาสได้เจอกันตามที่ประชุมที่อำเภอบ้าง จังหวัดบ้าง วันเกิดเหตุจู่ๆ กำนันก็หันมาตะหวาดประมาณว่า “ปลัดรู้เรื่องอะไรบ้างหรือไม่ โง่หรือเปล่า” ซึ่งก่อนหน้านั้นไม่รู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้นเพราะไปอยู่หน่วยอื่นมา แต่พูดแบบนี้ต่อหน้าคนอื่น ก่อนหน้านี้ไม่เคยมีปัญหากันมาก่อน เลยตอบกลับไปว่าในการเลือกตั้งมีคณะกรรมการและประธานประจำหน่วยคอยดูแลอยู่ มีการถ่ายรูปคนสุดท้ายก่อนกั้นไว้แล้ว แต่กำนันยังไม่พอใจ เลยคิดว่าหากพูดกันไม่รู้เรื่องแบบนี้จะไม่ขอพูดด้วย เหตุการณ์นี้มีรองนายกและประธานประจำหน่วยอยู่ในเหตุการณ์ หลังจากนั้นไม่มีเรื่องอะไรต่อ ในฐานะข้าราชการทำตามระเบียบของกฎหมายอยู่แล้ว จริงๆ แล้ว การจัดการเลือกตั้งเป็นหน้าที่ของเทศบาล เราดำเนินการตามระเบียบ ต้องถูกต้องและโปร่งใสอยู่แล้ว สำหรับหน่วยงานที่ไม่เกี่ยวข้องไม่ควรเข้ามาก่อความไม่สงบ
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปพบนายพิทักษ์ อยู่สุข (กำนันแรม) กำนันตำบลบางรักพัฒนา ซึ่งเป็นคู่กรณี เล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า เหตุการณ์เกิดเมื่อวันที่ 24 ก.ย. 66 ที่หมู่ 10 ต.บางรักพัฒนา มีการเลือกคณะกรรมการชุมชน ท่านนายกเทศบาลได้เข้าไปดูแลหน่วยเลือกตั้ง และเห็นป้ายทีมที่ตนส่งลงเลือกตั้ง ได้สั่งให้ลูกน้องรื้อป้ายออก ตนเห็นว่ามันไม่ได้มีกฎหมายห้าม เพราะทีมฝั่งท่านนายกก็ติดป้ายหน่วยเลือกตั้งเหมือนกัน ตนจึงห้ามให้คนรื้อป้าย หลังจากนั้นท่านนายกได้แจ้งให้ปลัดอำเภอมาที่จุดเลือกตั้ง พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ ประเด็นคือเรื่องของป้าย ตนเห็นว่าฝ่ายนายกทำได้ทำไมฝ่ายตนจะทำไม่ได้ คิดว่าท่านนายกน่าจะอารมณ์ไม่ดี พร้อมชน พูดท้าทายกับตนว่า “หรือมึงจะเอาล่ะ” ซึ่งตนไม่มีปัญหาอะไร จริงๆแล้วหมู่ 10 ที่คุยกับทางสท. ต้องการคณะกรรมการ 7 คน ส่งผู้ใหญ่บ้านกับผู้ช่วยเข้าไป 2 คน ที่เหลือให้สท.คัดสรรมา 5 คน แต่พอส่งรายชื่อไปแล้ว ฝ่ายของเทศบาลส่งคนของตัวเองมาครบ 7 คน ตนเลยต้องส่งทั้ง 7 คนแข่งขันด้วย ตนมาเห็นป้ายหาเสียงของฝ่ายเทศบาลตอน 22.00 น. คืนวันที่ 23 ก.ย. 66 ตนเลยสั่งทำป้ายและมาติดบ้าง เขาติดได้ตนก็ติดได้ ติดคู่กัน ซึ่งพูดตามตรงในเขตของหมู่ 10 ฝั่งตนได้เปรียบกว่า ตนไม่ได้ไปยุ่งกับป้ายฝั่งเทศบาล วันเกิดเหตุท่านนายกได้สั่งให้คนรื้อป้ายของฝั่งตนออก ซึ่งไม่ได้มีกฎหมายห้ามติดป้าย ไม่ได้มีอะไรกำหนด และของฝั่งตนติดทีหลัง เป็นการเลือกตั้งภายในท้องถิ่น ตอนสั่งรื้อช่วงประมาณ 9 โมงกว่า มีประชาชนยังต่อแถวเลือกตั้ง ต่อให้หมดเวลาเลือกตั้งก็ไม่มีสิทธิมาสั่งให้ตนเก็บป้าย ในเลือกการเลือกตั้งคณะกรรมการชุมชน มีการประสานงานระหว่างเทศบาลกับชุมชน มันไม่มีข้อห้ามอะไรตนจึงให้ลูกน้องไปสมัคร ส่วนเรื่องที่มีกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหลายคนอยู่ในพื้นที่ ตนได้ทำเรื่องถึงอำเภอว่าจะมีการเลือกตั้ง เมื่อไหร่มีกิจกรรมและมีลูกบ้านตนไปร่วมงานกันจำนวนมาก เป็นหน้าที่ของกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยสารวัตร ที่ต้องเข้าไปดูแลความเรียบร้อย อำนวยความสะดวกให้กับลูกบ้าน เป็นหน้าที่โดยตรงในพื้นที่ของเรา ส่วนเรื่องการท้าทายตนไม่อยากถือสาเพราะท่านอายุมากแล้ว อย่าใช้กำลังเลยเพราะเราโตกันแล้ว
