วุ่นอีก!! ไหลเรือไฟนครพนม แฉนายทุนจองถนนสาธารณะเก็บค่าเช่า เกือบสองหมื่นต่อล็อค

นครพนม วุ่นอีกงานไหลเรือไฟขบวนการนายทุน ฉวยโอกาสจับจองถนนสาธารณะ ทำเลทองเลียบน้ำโขง จัดล็อคเปิดเก็บเช่า ผู้ค่าเร่ ราคาล็อคละเกือบ 2 หมื่นบาท โกยเงินสะพัดกว่า 2 ล้านบาท ผู้ประกอบการในพื้นที่โวย กางเต็นท์บดบังทัศนียภาพริมน้ำโขง ภาครัฐปล่อยให้ผู้ค้าเร่ต่างถิ่นมากอบโกยผลประโยชน์ช่วงงานประเพณีไหลเรือไฟ 10 วัน เปิดช่องไม่มีประกวดราคา คาดทำเงินหลายล้านบาทเข้ากระเป๋า  ไม่คำนึงถึงผลเสียผู้ประกอบการในพื้นที่ ด้านผู้ค่าเร่ยอมรับมีนายทุน มาเรียกเก็บค่าเช่า เชื่อทำเป็นขบวนการ จี้หน่วยงานเกี่ยวข้อง ตรวจสอบเจ้าหน้าที่รัฐอยู่เบื้องหลัง สอบเส้นทางการเงินเข้ากระเป๋าส่วนตัว  เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ จ.นครพนม ความคืบหน้ากรณีมีชาวบ้าน บรรดาผู้ประกอบการในพื้นที่ เขตเทศบาลเมืองนครพนม รวมถึงผู้ประกอบการค้า ร้านค้า ร้านอาหาร โรงแรมที่พัก ออกมาโพสต์ดรามา เรียกร้องให้หน่วยงานเกี่ยวข้อง จังหวัดนคพรนม รวมถึงเทศบาลเมืองนครพนม มีการตรวจสอบ ข้อเท็จจริง กรณีมีกลุ่มนายทุนฉวยโอกาสจัดล็อคร้านค้าแผงลอย กางเต็นท์ จัดสรรเป็นแผงเช่าขายสินค้า ในช่วงงานประเพณีออกพรรษาไหลเรือไฟ ระหว่างวันที่ 20 – 30 ตุลาคม 2566 รวม 10 วัน ส่งผลกระทบสร้างความเดืดร้อน ต่อผู้ประกอบการร้านค้าในพื้นที่ เนื่องจากมีนายทุนฉวยโอกาส จับจองถนนเส้นทางสาธารณะ สุนทรวิจิตร เลียบแม่น้ำโขง ระยะทางหลาย 100 เมตร พร้อมเรียกเก็บค่าเช่า จากผู้ประกอบการเร่ต่างถิ่น ในราคาห้องเช่า ห้องละ ประมาณ 15,000 – 20,000 บาท ไม่ต่ำกว่า 150 -300 แผง สร้างเงินหมุนเวียนไม่ต่ำกว่า 2 ล้านบาท จนมีคนมาแสดงความคิดเห็นทางสื่อโซเชียล อยากให้หน่วยงานเกี่ยวข้องมีการตรวจสอบแก้ปัญหา

 นอกจากนี้ยังมีผู้ประกอบการในพื้นที่เลียบฝั่งน้ำโขง ที่ประกอบร้านค้า ร้านอาหาร โรงแรม ที่พัก ออกมาร้องเรียนผ่านสื่อโซเชียล ให้มีการตรวจสอบ เชื่อว่ามีการทำเป็นขบวนการ และมีนายทุน ร่วมกับเจ้าหน้าที่รัฐบางส่วน แสวงประโยชน์ จากการเก็บที่เช่าถนนสาธาณะประโยชน์ ถือเป็นทำเลทองติดแม่น้ำโขง ที่ส่งผลกระทบต่อประชาชน นักท่องเที่ยว ที่มาท่องเที่ยว ใช้บริการร้านค้า ร้านอาหาร เพราะมีการกางเต็นท์บดบังความสวยงามทางทัศนียภาพริมฝั่งโขงในช่วงงานประเพณีไหลเรือไฟออกพรรษา และมีการตั้งข้อสังเกตว่า มีขบวนการนายทุน ร่วมกับเจ้าหน้าที่รัฐบาลส่วน เรียกรับประโยชน์ นำเงินเข้ากระเป๋าส่วนตัว และไม่มีการนำเข้าภาครัฐ เนื่องจากไม่มีหลักฐานยืนยันการออกใบเสร็จรับเงินค่าเช้า รวมถึงไม่มีการเปิดแข่งขันราคาในการเช่าร้านค้าแผลลอย      ภายหลังจากการลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง ทางผู้ประกอบการขายของเร่ ส่วนใหญ่มีทั้งร้านค้า ร้านอาหาร รวมถึงสินค้าทั่วไป ส่วนใหญ่มาจากต่างถิ่น โดยมีนายทุน อ้างว่ามีการเช่าช่วงมาจากทางหน่วยงานภาครัฐ มาเก็บค่าเช้าที่มีการกางเต็นท์จัดล็อค ให้เช่ากว้างประมาณ 3 เมตร ลึกประมาณ 3 เมตร ราคาประมาณ ล็อคละ 15,000 บาท บางล็อคมีขนาดใหญ่ ราคาประมาณ 20,000 บาท แต่ไม่มีใบเสร็จรับเงินระบุหน่วยงาน มีหน้าที่เช่าขาย แต่ไม่รู้ว่าเป็นของใครที่มาเก็บเงิน โดยจากการตรวจสอบยังพบว่า ช่วงระหว่างถนนสุนทรวิจิตรเลียบฝั่งแม่น้ำโขง จากองค์พญาศรีสัตตนาคราช ยาวไปถึง วัดมหาธาตุ ระยะทางกว่า 500 เมตร มีการจัดพื้นที่ทำเลทองเป็นห้องเช่า มากกว่า 200 ห้อง คาดว่ามีการจัดเก็บเป็นเงินรวมไม่ตำกว่า 2 ล้านบาท นอกจากนี้ยังมีพื้นที่รอบศาลากลางจังหวัดนครพนม ที่ยังมีการจัดล็อคเก็บค่าเช่า แต่ไม่ยืนยันว่าหน่วยงานไหนรับผิดชอบสอบถาม ผู้ประกอบการร้านค้าในพื้นที่ มีร้านค้าติดถนนสุนทรวิจิตร เลียบฝั่งโขงในเขตเทศบาลเมืองนคพรนม เปิดเผยว่า อยากสะท้อนปัญหาขอความเห็นใจสำหรับหน่วยงานเกี่ยวข้อง ทั้งจังหวัดนครพนม เทศบาลเมืองนครพนม ในช่วงจัดงานออกพรรษาไหลเรือไฟ รวม 10 วัน กับปล่อยให้นายทุนต่างถิ่นฉวยโอกาสมากอบโกยประโยชน์ จัดพื้นที่เช่าทำเลทอง ขายให้ผู้ค้าเร่ต่างถิ่น โดยไม่คำนึงถึงผู้ประกอบการในพื้นที่ จัดงานปีละครั้ง ควรจะให้คนในพื้นที่ได้รับประโยชน์มากที่สุด แต่ให้คนต่างถิ่นมากอบโกย ไม่คำนึงถึงผลกระทบผู้ประกอบการค้าในพื้นที่ เพราะถนนเลียบแม่น้ำโขงเป็นทำเลทอง ประชาชน นักท่องเที่ยว มาใช้บริการ ร้านค้า ร้านอาหาร โรงแรมที่พัก แทนที่จะได้ชื่นชมความสวยงาม กับถูกกางเต็นท์บดบังความสวยงาม ทัศนียภาพฝั่งโขง และกระทบการสัญจรของประชาชนนักท่องเที่ยว อยากให้จังหวัดนครพนม หรือหน่วยงานเกี่ยวข้องทบทวน จัดโซนนิ่ง ให้เกิดความเหมาะสม ไม่ใช่เอาใจนายทุนเป็นหลัก ให้นายทุนได้ประโยชน์ ชาวบ้านในพื้นที่กับได้รับผลกระทบ////ฅนข่าวนตรพนม

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *