เมื่อเวลา 10.00น.วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2567 นายสิรภพ นิยมเดช นายอำเภอบ้านไร่ จ.อุทัยธานี เป็นประธานงานยกช่อฟ้า นกหัสดีลิงค์บนหลังคาอุโบสถรากไม้ตะเคียนหนึ่งเดียวในประเทศไทย ณ.วัดเขาถ้ำประทุน หมู่ 12 ตำบลทัพหลวง อำเภอบ้านไร่ จังหวัดอุทัยธานี
สร้างด้วยรากไม้ตะเคียนทองทั้งหลังมูลค่ากว่า 500ล้านบาท โดยช่อฟ้าใช้ไม้ตะเคียนแกาะสลักเป็นรูปนกหัสดีลิงค์ ทั้งหมด 6 ตัว ซึ่งต้องใช้รถเครน 2 ตัวยกขึ้นไปยังหลังคาโบสถ์ โดยพระสงฆ์จำนวน 9 รูป เจริญพุทธมงคลพระคาถา หลังจากนั้นได้มีการจุดประทัดเสี่ยงท้าย จำนวน 2 พันนัด ได้เลข 3 ตัว 817 และ 53 ส่วนอีกประทัดอีกอันหนึ่งได้ถูกไฟไหม้ เห็นแต่เลข 8 ตัวเดี่ยว หลังจากนั้นได้มีชาวบ้านจำนมากที่มาร่วมงาน หลายจังหวัด ได้นำมือถือ มาถ่ายเลขหางประทัด ทั้ง 2 หางไปเพื่อเสียงท้าย ในวันที่ใกล้หวยออก
โดยภายในงานยกช่อฟ้าอุโบสถ์ วัดเขาถ้ำประทุน ได้มีประชาชน มาร่วมงานเป็นจำนวนมาก ซึ่งเดินทางมาจากจังหวัดสุพรรณบุรี ชัยนาท นครสวรรค์ สิงห์บุรี ลพบุรี และประชาชนในจังหวัดอุทัยธานี ซึ่งชาวบ้านส่วนใหญ่ทีมาร่วมงานต่างพูดว่า การยกช่อฟ้าที่วัดเขาถ้ำประทุนนั้นแปลกกว่าที่อื่น ที่เป็นปูน แต่ที่วัดเขาถ้ำประทุน นั้นเป้นไม้ตะเคียนนำมาแกาะสลักเป็นรูปนกหัสดีลิงค์ ที่มีหนึ่งเดียวในประเทศไทย
“นกหัสดีลิงค์” เป็นชื่อของนกขนาดใหญ่ชนิดหนึ่งในเทวนิยาย อาศัยอยู่ในป่าหิมพานต์ มีลักษณะผสมของสัตว์ 4 ชนิด ลำตัวเป็นนก ใบหน้าเป็นสิงห์ จะงอยปากเป็นงวงช้างเขี้ยวหน้าเป็นงา มีหางเป็นหงส์ มีพละกำลังดั่งช้างเอราวัณ 3-5 เชือกรวมกัน
คนล้านนานั้น รู้จักสัตว์ในจินตนาการชนิดนี้มาตั้งแต่ยุค 1,400 ปีก่อน ชื่อของนกหัสดีลิงค์ปรากฏในตำนานการสร้างนครหริภุญไชย ว่า เหล่าฤๅษีทั้งสาม อันได้แก่ วาสุเทพฤๅษี สุกทันตฤๅษี และอนุสิสฤๅษี ที่ช่วยกันวางรากฐานเมืองลำพูน ได้เรียก “นกหัสดีลิงค์” ออกมาจากป่าหิมพานต์ ให้ทำหน้าที่บินไปคาบ “หอยสังข์” (สัญลักษณ์หนึ่งในสี่สวัสดิมงคลของพระนารายณ์หรือวิษณุเทพของฮินดู ประกอบด้วย ดอกบัว สังข์ จักร คทา แทน ดิน น้ำ ลม และไฟ) มาจากห้วงมหาสมุทร เพื่อนำมาใช้เป็นต้นแบบในการสร้างเมืองลำพูน
เหล่าฤๅษีใช้ไม้เท้าขีดเส้นเขตแดนเมืองตามขอบรูปร่างของหอยสังข์นั้น กลายเป็นแผ่นดินที่พูนนูนขึ้นตอนกลางคล้ายกระดองเต่าและมีน้ำล้อมรอบ อันเป็นที่มาของผังเมืองโบราณยุคทวารวดีที่มีอายุมากกว่าพันปี เชื่อกันว่าเป็นผังเมืองที่จะทำให้ผู้อาศัยมีความสมบูรณ์พูนสุข
///////////////////
นายพชร พัสกุล จ.อุทัยธานี