นอกจากนี้ได้ทราบจากการพูดคุยของทหาร ว่า ส.ต.วัชระ ได้เข้าเวร สห.ในช่วงเวลา 15.00 น. ซึ่งเตรียมกำลังจะออกเวรในตอน 18.00 น. ซึ่งเวลาที่เกิดเหตุอยู่ที่ 17.47 น. เหลือเวลาอีกเพียง 13 นาทีก็ผลัดเปลี่ยนเวรแล้ว แต่มาเกิดเหตุสลดเสียก่อน
ส่วนมือปืนรายนี้ทราบต่อมาว่าชื่อ สิบโท มานิตย์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 29 ปี เป็นเพื่อนทหารร่วมค่าย ที่มีบ้านพักอยู่ภายในค่ายพระยอดเมืองขวาง โดยขับ จยย.ออกจากบ้านพักแล้วมาจอดตรงหน้าที่ ส.ต.วัชระกำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่ จากนั้นก็ชักอาวุธปืนทราบภายหลังว่าเป็นขนาด 9 มม.แม็กกาซีน จ่อกระหน่ำยิงไม่ยั้ง เข้าลำตัวและศีรษะรวม 12 นัด กระสุนฝังใน ในที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุนรวม 16 นัด โดยกระสุนที่พลาด 4 นัด ไปถูกกระจกและผนังป้อมยาม เจ้าหน้าที่จึงบันทึกไว้เป็นหลักฐาน
ส่วนสาเหตุเกิดจากการมีปากเสียงกันก่อนหน้านี้ เนื่องจาก ส.ต.วัชระ เพิ่งย้ายมาประจำค่ายพระยอดเมืองเมืองขวางประมาณ 2 ปีเศษ ส่วน ส.ท.มานิตย์เป็นพลทหารอาสา ที่มีฐานะยากจน ทางทหารจึงเปิดโอกาสให้สอบเข้าเป็นนายสิบ เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระของครอบครัว แต่กลับสร้างความเสื่อมเสียแก่หน่วยงาน โดยนิสัยของ ส.ต.วัชระเป็นคนพูดจาโผงผาง ถ้าใครไม่รู้นิสัยจะกล่าวหาว่าเป็นคนก้าวร้าว แต่ความจริงเป็นคนที่รักพวกพ้องและมีน้ำใจ ในขณะที่ ส.ท.มานิตย์เป็นคนที่ไม่ค่อยคุยและสุงสิงกับใคร อาจจะคิดว่า ส.ต.วัชระไม่เคารพรุ่นพี่ จึงเก็บความคับแค้นไว้ในใจ ก่อนจะตัดสินใจก่อเหตุยิงเพื่อนเสียชีวิตคาป้อมยามดังกล่าว
หลังเกิดเหตุตำรวจชุดสืบสวน บก.ภ.จว.นครพนม และ สภ.เมืองนครพนม ลงพื้นที่ตรวจสอบหารายละเอียด ก่อนจะแยกย้ายกันติดตามตัว ส.ท.ปืนโหดรายนี้แล้ว และระหว่างแพทย์ชันสูตรพลิกศพญาติของ ส.ต.วัชระมาถึงที่เกิดเหตุ ก็ร้องไห้ระงมในการสูญเสียบุคคลที่รัก ข่าวคืบหน้าจะนำมาเสนอต่อไป