เมื่อวันที่ 25 ส.ค.65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า อิทธิพลจากพายุโซนร้อน “หมาอ๊อน” (MA-ON) ทำให้เกิดพายุกระโชกแรงและฝนตกหนักมากในพื้นที่ จ.ลำปาง ครอบคลุมทั้ง 13 อำเภอ ส่งผลทำให้เกิดน้ำป่าทะลักลงมาจากเขาสูงเขตห้ามล่าสัตว์ป่าดอยพระบาท และไหลหลากท่วมโรงพยาบาลแจ้ห่ม อ.แจ้ห่ม จ.ลำปาง ซึ่งเป็นพื้นที่อำเภอทางตอนบนของจังหวัด
กระแสน้ำป่าสีขุ่นเข้ม ไหลหลากเชี่ยวผ่านตัวอาคารของโรงพยาบาล และภายในพื้นที่เป็นจำนวนมาก ระดับน้ำป่าที่หลากลงมาสูงประมาณ 30 เซนติเมตร และไหลเชี่ยว เนื่องจากเป็นกระแสน้ำป่าที่หลากลงมาจากเขาสูงที่ตั้งอยู่ด้านหลัง
โดยน้ำป่าที่หลากลงมานี้ เนื่องจากในพื้นที่ ต.วิเชตนคร อ.แจ้ห่ม จ.ลำปาง เกิดฝนตกหนักมาก วัดปริมาณกว่า 104.4 มิลลิเมตร จึงส่งผลทำให้เกิดน้ำป่าทะลักลงมาจากเขาสูงดังกล่าว ซึ่งเป็นเขตห้ามล่าสัตว์ป่าดอยพระบาท ที่ตั้งอยู่รอยต่อพื้นที่ อ.เมืองปาน และ อ.แจ้ห่ม จ.ลำปาง น้ำป่าหลากโรงพยาบาลแจ้ห่มในวันนี้ นับเป็นภัยทางธรรมชาติที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
ทั้งนี้ หลังจากฝนหยุดตก กระแสน้ำป่าก็ค่อยๆ ลดลง โดยเหตุการณ์ครั้งนี้ ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ หรือเสียชีวิต สำหรับสภาพอากาศในพื้นที่ จ.ลำปาง ที่เกิดฝนตกหนัก นอกจากจะเกิดน้ำป่าหลากลงมาแล้ว ในเขตพื้นที่ตัวเมืองลำปาง ก็เกิดน้ำท่วมขังอยู่หลายจุด ทั้งตามบ้านเรือน และตามเส้นทางต่างๆ ในเขตเทศบาลนครลำปาง
ขณะที่ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่สำรวจในบางจุด เช่น บริเวณถนนเข้าไปยังอ่างเก็บน้ำแม่ทะหรืออ่างเก็บน้ำวังเฮือ (ทะเลลำปาง) ต.พระบาท อ.เมืองลำปาง พบสายไฟฟ้าแรงสูงถูกต้นประดู่ยักษ์ อายุมากว่า 100 ปี ล้มทับขาดทั้งหมด 3 สาย ทำให้กระแสไฟฟ้าดับ และไม่สามารถสัญจรผ่านเส้นทางดังกล่าวได้
เบื้องต้นมีกำลังเจ้าหน้าที่งานป้องกันเทศบาลเมืองเขลางค์นคร นำเลื่อยโซ่ยนต์ มาตัดทอน ต้นประดู่เป็นท่อนๆก่อนที่จะขนย้ายเข้าข้างทาง แต่สภาพเป็นต้นไม้ขนาดใหญ่และเป็นไม้เนื้อแข็งทำให้การทำงานค่อนข้างยากลำบาก
สำหรับถนนสายนี้เป็นเส้นทางไปยังอ่างเก็บน้ำวังเฮือ และไป สำนักสงฆ์พระธาตุอรัญวาส ที่มีพระพุทธรูปเรืองแสงแห่งเดียวในประเทศไทย นอกจากนี้ยังเป็นเส้นทางลัดระหว่าง อำเภอแม่ทะ มายังอำเภอเมืองลำปาง ทำให้รถหลายๆคันต้องย้อนกลับใช้เส้นทางอื่นอีกกว่า 10 กิโลเมตร
นอกจากนั้น ยังเกิดน้ำท่วมขังถนนเส้นทางสัญจรไปยัง อ.แม่ทะ บริเวณด้านหน้า ม.ราชภัฏลำปาง ต.ชมพู อ.เมืองลำปาง เป็นระยะทางยาวกว่า 500 เมตร และมีความลึกอยู่ที่ประมาณ 30 เซนติเมตร ทำให้เกิดรถติดยาวในช่วงเช้า เนื่องจากเป็นช่วงเวลาเร่งด่วน ซึ่งเส้นทางนี้มีรถสัญจรต่อเนื่องตลอดทั้งวัน
โดยเวลาประมาณ 11.00 น. น้ำลดระดับไปเพียงเล็กน้อยเท่านั้น รถบางคันที่ขับผ่านช่วงน้ำท่วมสูงทำให้เครื่องยนต์ดับ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองเขลางค์นคร ได้เข้ามาอำนวยความสะดวก พร้อมติดตั้งป้ายแจ้งเตือนไว้ หากไม่มีฝนตกลงมาในพื้นที่อีก คาดว่าอีกประมาณ 1-2 ชั่วโมง น้ำจะลดระดับลงเป็นปกติ
