

เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 29 ส.ค.65 พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี รักษาราชการแทน นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ หรือ ก.ต.ช.โดยมีวาระสำคัญคือ เลือกผู้มาทำหน้าที่ “ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ” หรือ ผบ.ตร.แทนที่ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ซึ่งจะเกษียณอายุราชการในวันที่ 30 กันยายน ที่จะถึงนี้ โดยที่ประชุมมีมติแต่งตั้งให้ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ เป็น “ผบ.ตร.คนที่ 13” โดยมีมติเป็นเอกฉันท์ 6-0

รองผู้กำกับการป้องกันปราบปรามสถานีตำรวจนครบาลบางรัก, ผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลคลองตัน, รองผู้บังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ (191), รองผู้บังคับการอารักขาและควบคุมฝูงชน, ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอำนาจเจริญ, ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2, ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพะเยา, ผู้บัญชาการสำนักงานกำลังพล, ผู้บัญชาการสำนักงานเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร, ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3, ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ, รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ
ประวัติผลงานสำคัญ
เป็นผู้อำนวยการศูนย์บริหารงานจราจรสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศจร.จร.) ขับเคลื่อนแผนงานและนโยบายด้านงานจราจรในภาพรวม ได้แก่ การพัฒนาระบบฐานข้อมูลใบสั่ง (PTM) เพื่อเป็นฐานข้อมูลประวัติการทำผิดกฎจราจรในภาพรวมและสามารถเชื่อมโยงข้อมูลกับกรมการขนส่งทางบกในการใช้มาตรการตัดคะแนน พัฒนาระบบฐานข้อมูลอุบัติเหตุทางถนนให้เป็นฐานข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์สามารถประมวลผลได้ทันที เสนอแก้ไขกฎหมายว่าด้วยจราจรทางบกและระเบียบที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้สอดรับกับหลักสากลและมุ่งเน้นการป้องกันอุบัติเหตุ เช่น การเพิ่มโทษผู้กระทำผิดซ้ำข้อหาขับรถในขณะเมาสุรา การเพิ่มโทษข้อหาฝ่าฝืนเครื่องหมายและสัญญาณจราจร แก้ไขการกำหนดอัตราความเร็วการขับรถให้เหมาะสมเป็นผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอส.ตร.) ได้ขับเคลื่อนการจัดทำระบบรับแจ้งความออนไลน์สำหรับคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยีผ่าน www.thaipoliceonline.com เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชนในการแจ้งความและติดตามความคืบหน้าของคดี แก้ปัญหาประชาชนที่ถูกหลอกลวงทางออนไลน์ ซึ่งไม่ทราบว่าจะไปแจ้งความที่ใดและตอบสนองความรวดเร็วในการอายัดบัญชีคนร้าย และเป็นเครื่องมือช่วยเจ้าหน้าที่ตำรวจในการหาความเชื่อมโยงของคดีเพื่อติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งได้เสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้ประชาชน ให้รู้เท่าทันภัยการหลอกลวงทางออนไลน์ (Cyber vaccine) โดยขอความร่วมมือ กสทช.และผู้ให้บริการโทรศัพท์ แจ้งประชาสัมพันธ์/ส่งข้อความเตือนภัย ให้ความรู้แก่ประชาชน ถึงรูปแบบอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ตลอดจนการจัดทำสื่อประชาสัมพันธ์รูปแบบต่างๆ และการบรรยายให้ความรู้กับนักเรียนนักศึกษาต่างๆ รู้เท่าทันภัยอาชญากรรมทางเทคโนโลยีในรูปแบบต่างๆ