วันที่ 10 กันยายน 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในโลกออนไลน์มีเอกสารราชการว่อน ระบุกรมชลประทาน มีคำสั่ง 485/2565 ลงวันที่ 9 ก.ย. ย้ายนายโบว์แดง ทาแก้ว ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษารังสิตใต้ สำนักงานชลประทานเขต 11 กรมชลประทาน ไปทำหน้าที่หน้าห้อง รองอธิบดี กรมชลประทาน (นายทวีศักดิ ธนเดโชพล) ตั้งแต่วันที่ 9 กันยายน 2565 เป็นต้นไป จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง
นอกจากนี้ยังให้นายทวีศักดิ ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงว่าสาเหตุที่ เกิดน้ำท่วมขังที่พื้นที่รังสิต เนื่องจากเครื่องสูบน้ำเสีย ไม่พร้อมใช้งาน เรื่องที่เป็นเรื่องของการทำงานของกรมชลฯโดยก่อนหน้านั้นตนได้สอบถามตลอดว่าเครื่องมือเครื่องสูบน้ำพร้อมใช้งานหรือไม่ สำนักงานชลประทานเขต 11 ก็ตอบว่าพร้อม เมื่อตอบว่าพร้อม ก็หมายถึงว่า เครื่องมือพร้อม หากมีน้ำฝนหรือน้ำเหนือมาต้องพร้อมใช้งาน แก้ปัญหา สูบน้ำได้ แต่เมื่อเกิดเหตุขึ้นเครื่องมือกลับทำงานไม่ได้
เรื่องนี้ถือว่านายโบว์แดง ทาแก้ว บกพร่องในหน้าที่ ในวันที่ฝนตกหนัก ตนลงพื้นที่รังสิตในพื้นที่น้ำท่วม เมื่อเครื่องสูบน้ำใช้งานไม่ได้ กรมชลประทานได้ขนเครื่องสูบน้ำเพื่อติดตั้งจนครบ 20 เครื่อง และใช้ในการสูบน้ำระบายน้ำท่วมขังลงคลองรังสิต
ขณะนี้ระดับน้ำลดลงเป็นลำดับ ลุ้นแค่ไม่มีฝนใหม่ลงมาเติม เพราะน้ำที่ท่วมรังสิตในช่วงที่ผ่านมา ไม่ได้มาจากน้ำเหนือทั้งหมดเกิดจากน้ำฝน
โดยกรมชลประทานได้วางแผนเตรียมรับมือมาก่อนหน้าฝนแล้ว และได้สอบถามความพร้อมของชลประทานทั่วประเทศ รวมทั้งโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษารังสิตใต้ ก็ได้รับคำตอบว่าพร้อม แต่ถ้าจะอ้างว่าเงินไม่มีซ่อมเครื่องสูบน้ำ ทำไมไม่เบิก เรื่องการบริหารเครื่องไม้เครื่องมือเพื่อเตรียมรับน้ำฝน น้ำเหนือ รัฐบาลก็ให้ความสำคัญ ทำไมชลประทานอื่น ๆ เขาตั้งเบิกงบประมาณ เพื่อซ่อมบำรุง ทำไมที่นี่ไม่เบิกงบประมาณซ่อม
“ช่วงฝนตก ผมกับทีมชลประทาน ลงพื้นที่ทำงานตี 1 ตี 2 ไม่พบนายโบว์แดง ในฐานะผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษารังสิตใต้มาทำงาน แต่ส่งลูกน้องมาทำงานแทน ที่ผ่านมาได้สอบถามตลอดพร้อมรับมือน้ำฝนไหม ก็ตอบว่าพร้อม เมื่อเกิดเหตุเครื่องมือใช้งานไม่ได้ มันบกพร่องต่อหน้าที่ เรื่องที่เกิดขึ้น เป็นเรื่องของกรมชลประทาน เรื่องของประชาชน ไม่ใช่เรื่องส่วนตัว”