‘กรมศิลป์’ จัดทำบัญชี หลังเจดีย์วัดศรีสุพรรณถล่ม พบหัวใจพระธาตุ อายุกว่า 500 ปี

‘กรมศิลป์’ จัดทำบัญชีโบราณวัตถุ หลังเจดีย์วัดศรีสุพรรณถล่ม พบหัวใจพระธาตุ สมัยพระแก้วเมือง อายุกว่า 500-600 ปี จัดทำไม้ค้ำยันกันพังทลายลงมาอีก ก่อนบูรณะ

เมื่อวันที่ 1 ต.ค.65นายพนมบุตร จันทรโชติ ผู้ตรวจราชการกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) ว่าที่อธิบดีกรมศิลปากร กล่าวว่า กรณีพระธาตุอายุกว่า 500 ปี วัดศรีสุพรรณ จังหวัดเชียงใหม่ล้มลงนั้น ตัวเจดีย์ที่ถล่มไม่ได้เป็นโบราณสถาน แต่เป็นเจดีย์ที่สร้างครอบเจดีย์ที่เป็นโบราณสถานไว้ชั้นหนึ่ง และการที่เจดีย์ด้านนอกพังทลายลงมา ส่งผลให้เจดีย์ด้านในที่เป็นโบราณสถานได้รับความเสียหายตามไปด้วย

ในส่วนของกรมศิลปากรวางแนวทางการดำเนินการไว้ใน 3 เรื่องคือ 1.เจดีย์ถล่มครั้งนี้ ค้นพบโบราณวัตถุ ซึ่งมีทั้งพระพุทธรูป สมัยเชียงแสน ล้านนา ที่สำคัญคือ พระบรมสารีริกธาตุ หรือสมมติธาตุ และหัวใจพระธาตุ ตามคติล้านนา จากข้อมูลพบว่าสร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าศิริธรรมจักรพรรดิ หรือพญาแก้ว (พระเมืองแก้ว) มีอายุกว่า 500-600 ปี

ดังนั้นเพื่อป้องกันการสูญหาย ทางกรมศิลปากรจึงร่วมกับทางวัด จัดทำบัญชีโบราณวัตถุที่พบ และนำกลับเข้าไปบรรจุไว้ในเจดีย์ หลังการบูรณะเสร็จ ส่วนจะจัดสร้างเป็นพิพิธภัณฑ์หรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับทางวัด แต่คงต้องพิจารณาความสำคัญของโบราณวัตถุที่ค้นพบ โดยเฉพาะหัวใจพระธาตุ ตามคติล้านนา ถือเป็นหัวใจสำคัญของเจดีย์ที่เป็นโบราณสถาน หากนำมาจัดเก็บไว้ด้านนอก จะมีความเหมาะสมหรือไม่

นายพนมบุตร กล่าวต่อว่า เรื่องที่ 2 คือ ตัวเจดีย์ด้านใน ซึ่งเป็นหน้าที่โดยตรงของกรมศิลปากร เบื้องต้นทางกรมศิลปากร ส่งเจ้าหน้าที่ไปศึกษารูปแบบเจดีย์ เพื่อดำเนินการอนุรักษ์ให้ตรงตามแบบดั้งเดิมมากที่สุด และตอนนี้อยู่ขั้นตอนของการซ่อมแซมฉุกเฉิน คือจัดทำไม้ค้ำยัน เพื่อไม่ให้พังทลายลงมามากกว่าเดิม ก่อนดำเนินการบูรณะต่อไป

3.ในส่วนของเจดีย์ด้านนอกที่สร้างครอบตัวโบราณสถาน กรมศิลปากรจะให้คำปรึกษากับทางวัดในการจัดสร้างว่า จะดำเนินการให้สอดคล้องกับ เจดีย์ที่เป็นโบราณสถานด้านในหรือไม่ หรือจะจัดสร้างในรูปแบบใหม่ ถือเป็นเรื่องที่ทางวัดต้องตัดสินใจ

“นอกจากนี้ ผมยังขอให้สำนักศิลปากร ทั้ง 12 แห่งทั่วประเทศ เฝ้าระวังโบราณสถานที่มีความเสี่ยง หากมีกรณีฉุกเฉินเกิดขึ้น จะต้องเข้าไปตรวจสอบได้ทันท่วงที ดังนั้น สิ่งที่กรมศิลปากรดำเนินการ จึงมีทั้งการจัดทำบัญชีโบราณวัตถุ แนวทางการบูรณะและ เฝ้าระวังเจดีย์โบราณสถานที่มีลักษณะใกล้เคียงกัน ไม่ให้ได้รับความเสียหาย หรือหากเกิดกรณีฉุกเฉินขึ้น จะได้เข้าพื้นที่ให้ความช่วยเหลือได้ทัน” นายพนมบุตร กล่าว

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *