‘บิ๊กโจ๊ก’ ลั่นไม่ละเว้น แม้เป็นเพื่อนร่วมรุ่น หลังอดีตผู้การฯ ตม. ถูกโยงเอี่ยวจีนเทา

‘บิ๊กโจ๊ก’ ลั่นดำเนินคดีถึงที่สุดไม่ละเว้น แม้เป็นเพื่อนร่วมรุ่น หลังอดีตผู้การฯ ตม. ถูกโยงเอี่ยวแปลงวีซ่ากลุ่มจีนเทา

เมื่อวันที่ 8 ธ.ค. 2565 พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. เปิดเผยความคืบหน้าคดีนายทุนจีนสีเทา ว่า ได้เรียกอดีตนายตำรวจระดับสารวัตร ซึ่งเป็นพี่ชายภรรยาของนายชัยณัฐร์ หรือตู้ห่าว กรณ์ชายานันท์ มาให้ปากคำในกรณีที่มีรายชื่อเป็นกรรมการบริษัท 3-4 แห่ง ที่มีนายตู้ห่าว เป็นกรรมการร่วม ส่วน น.ส.สุชาดา ถึงแม้ไม่ได้มีรายชื่อเป็นกรรมการ แต่มีหน้าที่เบิกจ่ายเงินลักษณะเดียวกันกับ น.ส.พัชรินทร์ จึงต้องเรียกมาชี้แจงให้ครบถ้วน

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวต่อว่า แม้ที่ผ่านมาทั้ง น.ส.พัชรินทร์ และ น.ส.หลิน ให้การไม่เป็นประโยชน์เท่าที่ควร และทั้ง 4 คนไม่ให้ความร่วมมือ แต่ตำรวจยืนยันว่ามีข้อมูลครบถ้วนโดยเฉพาะเส้นทางการเงิน ถึงแม้ว่าทั้ง 4 คนจะยังไม่ใช่ผู้ถูกกล่าวหา แต่ยืนยันว่าตำรวจมีอำนาจหน้าที่ในการตรวจสอบเส้นทางการเงิน แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ ส่วนบริษัทของตู้ห่าวจะเกี่ยวข้องกับการแปลงวีซ่านักท่องเที่ยวจีนหรือไม่ ตรวจสอบพบว่าบริษัทตู้ห่าวทำหน้าที่แนะนำคนจีนเท่านั้น แต่ไม่เกี่ยวข้องกับการแปลงวีซ่า

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีที่พบว่ามีคนกลางเป็นข้าราชการตำรวจเข้าไปเกี่ยวข้องกับกระบวนการแปลงวีซ่า ขณะนี้ออกหมายเรียกหัวหน้าสถานีตำรวจตรวจคนเข้าเมืองทั้ง 27 แห่งนำเอกสารมาให้และสอบปากคำ แต่พบว่ามีบางนายยังไม่นำเอกสารมาให้ วันที่ 9 ธ.ค. จึงสั่งให้นำเอกสารมาให้พร้อมสอบปากคำเพิ่มเติมอีกครั้ง หากใครไม่นำมาให้หรือปลอมแปลงเอกสารก่อนนำมามอบ ประเด็นนี้ไม่เป็นกังวลยืนยันว่ามีข้อมูลเอกสารทั้งหมดครบแล้ว

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวต่อว่า รวมทั้ง 3 นายพลตำรวจที่ถูกพาดพิงว่ามีส่วนอำนวยความสะดวกในการแปลงวีซ่าให้กลุ่มชาวจีน ยืนยันว่าจะดำเนินการตามขั้นตอนโดยไม่ละเว้น แม้จะเป็นเพื่อนร่วมรุ่นนักเรียนนายร้อยตำรวจ รุ่น 47 ก็ตาม หากพบผิดจะดำเนินการถึงที่สุด แต่ทราบว่าบางนายเกษียณอายุราชการไปแล้ว ก็จะออกหมายเรียกมาให้ข้อมูลในฐานะพยานเหมือนหัวหน้าสถานี ตม.ทุกนายที่เรียกมาก่อนหน้านี้ ยืนยันว่าเมื่อสมัยดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) กวดขันและจับกุมอย่างเข้มงวด จนไม่มีผู้ใต้บังคับบัญชาคนใดกล้าทำผิดและไม่มีกลุ่มคนจีนกล้าทำเรื่องประเภทนี้

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวอีกว่า การตรวจสอบสารเสพติดบนเครื่องบินส่วนตัวของตู้ห่าว ไม่พบสารเสพติดรายละเอียดเพิ่มเติมยังไม่ทราบรายละเอียด แต่ถึงแม้จะไม่พบสารเสพติดก็ไม่มีผลกระทบกับคดีหลักที่ตู้ห่าวถูกดำเนินคดียาเสพติด เนื่องจากการตรวจค้นเครื่องบินเป็นส่วนหนี่งของการตรวจสถานที่เพื่อนำมาประกอบสำนวน

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *