ที่ประชุมวุฒิสภาพิจารณา ร่างพระราชบัญญัติ การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น (ฉบับที่…) พ.ศ… ที่กรรมาธิการฯ ซึ่งมีพล.อ.เลิศรัตน์ รัตนวานิช เป็นประธาน กมธ. พิจารณาเสร็จแล้ว โดยร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวมีข้อเสนอให้แก้ไขเพียงมาตราเดียว คือ การเปิดช่องให้ ข้าราชการการเมือง ส.ส. สมาชิกสภาท้องถิ่น ผู้บริหารท้องถิ่นหรือเจ้าหน้าที่อื่นของรัฐ ช่วยหาเสียงเลือกตั้งได้
ซึ่ง กมธ.ของวุฒิสภาได้แก้ไข โดยตัดวรรคแรกที่บัญญัติให้ช่วยหาเสียงเลือกตั้งได้ และแก้ไข ขยายให้สิทธิ์ ส.ว. ช่วยหาเสียงเลือกตั้งได้ด้วย นอกจากข้าราชการการเมือง ส.ส. สมาชิกสภาท้องถิ่น ผู้บริหารท้องถิ่น หรือเจ้าหน้าที่อื่นของรัฐ สามารถช่วยหาเสียงเลือกตั้งได้
การอภิปรายของสมาชิกวุฒิสภา พบว่าเสียงส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วย โดยเฉพาะประเด็นการขยายสิทธิให้ ส.ว. ร่วมหาเสียงเลือกตั้งได้ เพราะอาจจะขัดต่อเจตนารมณ์ ที่ให้ ส.ว. เป็นกลางทางการเมือง และอาจทำให้มีปัญหาต่อการผู้บังคับใช้กฎหมาย นอกจากนั้นยังท้วงติงต่อการตัดวรรคแรกออกไป ซึ่ง กมธ.ให้เหตุผลว่าเมื่อไม่เขียนห้ามย่อมทำได้ แต่ในลักษณะของกฎหมายอาจทำให้เกิดการตีความและเป็นปัญหา ทำให้ พล.อ.เลิศรัตน์ ชี้แจงต่อที่ประชุมโดยเห็นถึงข้อกังวลของ ส.ว.ที่ท้วงติง จึงขอหารือกับ กมธ.เพื่อแก้ไข
หลังประธานสั่งพักการประชุม 10 นาที ได้แจ้งกับที่ประชุม ว่าขอกลับไปใช้เนื้อหาเดิมที่ผ่านการเห็นชอบของสภาผู้แทนราษฎร พล.อ.เลิศรัตน์ ชี้แจงว่า กรณีที่มี ส.ว.สงวนคำแปรญัตติให้นำถ้อยคำ ว่าหากพบการกระทำที่กลั่นแล้งผู้สมัครหรือดำเนินการใดๆ เป็นคุณหรือโทษกับผู้สมัคร คืนมา กมธ.ไม่เห็นด้วย เพราะในเนื้อหาบัญญัติข้อห้ามการกระทำที่อาจเป็นการกลั่นแกล้งกัน
จากนั้นที่ประชุมวุฒิสภาได้ลงมติ โดยเสียงข้างมาก 145 เสียง เห็นด้วยกับ กมธ. จากนั้นได้ผ่านวาระสองและได้ลงมติในวาระสาม ผลปรากฎว่าเสียงข้างมาก 157 เสียงเห็นชอบ 12 เสียงไม่เห็นชอบ และ งดออกเสียง 18 เสียง จึงถือว่าร่าง พ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น (ฉบับที่…) พ.ศ… ผ่านความเห็นชอบจากวุฒิสภา โดยไม่มีการแก้ไขไปจากร่างที่สภาฯเห็นชอบ ขั้นตอนต่อไปจะแจ้งให้สภาผู้แทนราษฎรรับทราบและดำเนินการประกาศใช้เป็นกฎหมายต่อไป