ชาวพุทธไทย-ลาว นับหมื่นร่วมพิธีอัญเชิญพระอุปคุต เปิดงานนมัสการพระธาตุพนม 2566

วันที่ 29  ม.ค.66  ที่บริเวณริมฝั่งแม่น้ำโขง ท่าเทียบเรือด่านศุลกากรข้ามฟากระหว่างประเทศไทย-ลาว อ.ธาตุพนม จ.นครพนม ซึ่งเป็นชุมชนเก่าแก่ของอำเภอธาตุพนม พระเทพวรมุนี  เจ้าอาวาสวัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร/ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 10   เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ นายวันชัย  จันทร์พร ผวจ.นครพนม เป็นประธานฝ่ายฆราวาส นายศุภชัย  โพธิ์สุ  รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 2 /ส.ส.นครพนม  นายชวนินทร์  วงศ์สถิตจิรกาล  รอง ผวจ.นครพนม นางสงวน  จันทร์พร  นายกเหล่ากาชาดจังหวัดนครพนม   นางสาวศุภพานี  โพธิ์สุ  นายก อบจ.นครพนม พร้อมหัวหน้าส่วนราชการ นำพุทธศาสนิกชนทั้งชาวไทย-ลาว นับแสน ที่เบียดเสียดกันเต็มริมตลิ่งจนไม่มีที่เดิน ตลอดจน “ข้าโอกาส” พระธาตุพนม ร่วมประกอบพิธีอัญเชิญพระอุปคุตจากใต้บาดาลแม่น้ำโขง หลังอัญเชิญก็จะแห่ไปตามถนนกุศลรัษฎากร เพื่อนำไปประดิษฐาน ณ วิหารหอพระแก้ว ด้านหน้าองค์พระธาตุพนมฯ ซึ่งพิธีดังกล่าวเป็นพิธีอันศักดิ์สิทธิ์ที่สืบทอดกันมาแต่โบราณ  โดยมีการรำบวงสรวงไปตลอดเส้นทางในการแห่พระอุปคุต

งานนมัสการองค์พระธาตุพนมปี 66  จัดขึ้นในวันที่ 29 ม.ค.66 – 6 ก.พ.66   เป็นเวลา 9 วัน 9  คืนจัดยิ่งใหญ่เต็มรูปแบบหลังพ้นวิกฤตแพร่ระบาดโรคโควิด-19 โดยงานวันแรก 29 ม.ค.พิธีอัญเชิญพระอุปคุตขึ้นจากแม่น้ำโขงมีดารานักร้องชื่อดังเข้าร่วมขบวนแห่จำนวนมาก  การจัดงาน เป็นเวลา 9 วัน 9  คืน  ของการจัดงานจะมีพุทธศาสนิกชนทั้งชาวไทยและชาวลาวเข้าร่วมนมัสการองค์พระธาตุนับแสนคน

พิธีเริ่มตามฤกษ์เวลา 08.00 น. พระสงฆ์สวดชัยมงคลคาถา จากนั้น นายวันชัย  จันทร์พร   ผวจ.นครพนม กล่าวคำอัญเชิญพระอุปคุต ที่ตามตำนานกล่าวว่าท่านจำศีลภาวนาอยู่ใต้บาดาล โดยมีผู้ดำน้ำลงไปอัญเชิญ จำนวน 5 คน ประกอบด้วย  นายปรัตถกร  บุลาวรรณกร  นายอำเภอธาตุพนม พล.ร.ต.สมาน  ขันธพงษ์  ผบ.นรข.  พ.อ.สมหมาย  บุษบา  รอง ผบ.มทบ.210  พ.ต.อ.จุลฤทธิ์  จุลกะ   รอง ผบก.ภ.จว.นครพนม  นายสัญชัย  ธ.น.ตื้อ  นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลธาตุพนม  เพื่อนำมาส่งให้แก่ นายวันชัย  จันทร์พร   ผวจ.นครพนม ที่ยืนรออยู่บนปะรำพิธี ซึ่งกลางลำแม่น้ำโขงมีเรือรักษาความปลอดภัยจาก 3 หน่วยงาน คือ นรข. ตำรวจน้ำ และกรมเจ้าท่า พิธีสำคัญนี้จะจัดขึ้นทุกปี ก่อนเปิดงานนมัสการองค์พระธาตุพนม (ชาวอีสานเรียกว่า งานบุญเดือนสาม) เพื่อขอให้พระอุปคุต พระอรหันต์ผู้มีฤทธานุภาพสูง ในตำนานระบุว่าท่านอยู่ในสมัยแผ่นดินของพระเจ้าอโศกมหาราชขึ้นครองราชย์ หรือหลังพระพุทธเจ้าเสด็จปรินิพพานไปแล้ว 200 ปี

งานนมัสการองค์พระธาตุพนมถือเป็นประเพณีสำคัญสืบทอดมาอย่างยาวนาน โดยชาวพุทธทั้งไทยและชาวลาวเชื่อถือสืบกันมา กล่าวกันว่าถ้าใครมีโอกาสเดินทางไปกราบไหว้พระธาตุพนม ถวายเครื่องสักการบูชาหน้าองค์พระธาตุด้วยตนเองแล้ว จิตใจจะสงบเยือกเย็นอย่างน่าอัศจรรย์ ถ้ายังไม่บรรลุนิพพานในชาตินี้ เมื่อเสียชีวิตไปแล้ววิญญาณก็จะได้ไปสู่สวรรค์ ชาวพุทธในถิ่นนี้ถือกันว่าองค์พระธาตุพนมไม่เพียงแต่จะเป็นเจดีย์ที่บรรจุพระอุรังคธาตุเท่านั้น แต่ยังเป็นสถานที่ซึ่งครั้งหนึ่งพระพุทธเจ้าเมื่อยังทรงพระชนม์อยู่ ได้เสด็จมาประทับแรมอยู่หนึ่งราตรีอีกด้วย ทำให้ทุกปีจะมีประชาชนจากทั่วทุกสารทิศของไทยและเทศ ต่างดั้นด้นเดินทางกันมาร่วมพิธีมากมายนับแสนคน จัดเป็นงานบุญที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในภาคอีสาน ส่วนคำว่า “ข้าโอกาส” กล่าวกันว่าเกิดขึ้นราว พ.ศ.500 ในสมัยเจ้าพระยาสุมิตตธรรมวงศา ผู้ครองเมืองมรุกขนคร ท่านทรงมีความเลื่อมใสศรัทธาต่อองค์พระธาตุพนมยิ่งนัก จึงเกณฑ์ไพร่พลร่วมกันบูรณะจนแล้วเสร็จ จึงเกิดคำว่า “ข้าโอกาส” เป็นข้าอุปัฏฐากพระธาตุพนม ติดปากมาถึงปัจจุบัน ซึ่งผู้ที่เดินทางไปนมัสการองค์พระธาตุพนม จะเห็นข้าโอกาสสวมชุดสีขาว คอยปัดกวาดเช็ดถูทำความสะอาด เก็บสิ่งของ หรือจัดดอกไม้รอบองค์พระธาตุพนม นั่นคือข้าโอกาสผู้อุทิศตนเป็นสาวกรับใช้ใกล้ชิดกับองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า

โดยจะมีพิธีเปิดอย่างเป็นทางการ  ในเวลา 14.00 น. โดย พล.ต.อ.อดุลย์  แสงสิงแก้ว สมาชิกวุฒิสภา ซึ่งเป็นข้าโอกาสพระธาตุพนม ชาวนครพนม  เป็นประธานในพิธีฯ

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *