จากกรณี นายพิเศษ ลิขิตสันติพงษ์ อายุ 38 ปี ก่อเหตุใช้อาวุธปืนลูกซองยิง นายประสิทธิ์ เพชรพันธุ์ อายุ 61 ปี ได้รับบาดเจ็บอาการสาหัส และนายวัทนพร สมภักดี อายุ 17 ปี เสียชีวิต แล้วรอมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ อ้างทะเลาะกันเรื่องที่จอดรถ และทางผู้ตายได้ขู่จะยิงตัวเองก่อน โดยเหตุเกิดภายในลานจอดรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ของบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ใน ต.บางโฉลง อ.บางพลี สมุทรปราการ เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 11 มีนาคม 2566
ล่าสุดเมื่อช่วงบ่าย วันที่ 11 มีนาคม 2566 ที่ ห้องสืบสวน สภ.บางแก้ว สมุทรปราการ เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน ได้คุมตัวนายพิเศษ ผู้ก่อเหตุ มาสอบปากคำ พร้อมแจ้งข้อกล่าวหา 1.ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา / 2.มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต / 3.พกพาอาวุธปืนไปในที่ทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร ก่อนส่งมอบพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป และจะเชิญตัวผู้ได้รับบาดเจ็บหลังจากรักษาตัวแล้วมาสอบสวนเพิ่มเติม และจะแจ้งข้อกล่าวหากับนายพิเศษ เพิ่มเติมต่อไป
นายพิเศษ ผู้ก่อเหตุ เล่าว่า ฉนวนเหตุมาจากเมื่อวานก่อน เรื่องที่ตนไปจอดรถต่อตูดคนเจ็บ แล้วเขาออกไม่ได้ แล้วเขาก็มาทุบรถตน ตนก็เลยถอยเตรียมจะออกหน้าบริษัท รถของคนเจ็บก็ยังบีบแตร ตนก็ขับออกบริษัทไปจอดหน้าบริษัท เขาก็ขับตามออกมา แล้วก็ลงมาคุยกัน คนตายก็ชะโงกหัวออกมาแล้วมีการพูดท้าทายกัน ผู้ตายได้หยิบมีดลงมา ตนก็เลยกลับไปหยิบมีดที่รถ แล้วก็กลับมาท้าทายกัน โดยมีคนเจ็บคอยกัน จนคนในโรงงานออกมาห้ามให้แยกย้าย จนตนขึ้นรถขับออกไป คนตายได้ขับรถมาปาดหน้ารถตน แล้วเอาหินมาขว้างใส่รถตน ตนเลยโยกรถออกขวาแล้วขับออกไปเลย จนเมื่อเช้าตนก็มาทำงานปกติ ก็เจอคนตาย และคนเจ็บ นั่งกันอยู่ในลานจอด ตนเลยจอดรถถาม แล้วเกิดการท้าทายกันไปมา ตนรู้สึกเหมือนคนตายจะพกมีด ตนก็ไม่ไว้ใจตั้งแต่เมื่อวาน ตนเลยหยิบปืนจากในรถยิงใส่คนตาย พอคนตายล้ม คนเจ็บก็วิ่งเข้ามาหาตนน่าจะมาชาร์จปืนที่ตนถืออยู่ ตนก็ทำท่าจะตีคนเจ็บ เขาก็เลยวิ่งไปที่รถเขา ตนก็เลยใส่กระสุนเข้าไปใหม่ ก่อนที่เมียจะร้องห้ามให้ตนพอ แต่ไม่ทันตนยิงใส่คนเจ็บไปแล้ว ก่อนที่เมียตนจะเข้าไปกอดคนเจ็บเพื่อไม่ให้ตนยิงใส่คนเจ็บอีก ถ้าเขาไม่ได้เมียตน ตนยิงซ้ำแน่จริง ๆ ตนเลยเดินเอามือตบหัวคนเจ็บ และถามคนเจ็บว่าไหนว่าเก่งมากใช่ไหมเมื่อวาน ส่วนปืนพร้อมเครื่องกระสุนที่ใช้ก่อเหตุ ซื้อต่อมาจากคนแถวที่ทำงานเก่า ในราคาหมื่นกว่าบาท เจ้าของเดิมบอกมีทะเบียน แต่ตอนที่ซื้อขายไม่ได้มีเอกสารอะไรเลย ตั้งแต่ปี 52,53
จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนก็รู้สึกเสียใจมาก ที่ตนมาคิดได้ตอนทำไปแล้ว มันไม่ได้มีประโยชน์อะไรแล้ว ตนอยากให้ใจเย็น ๆ แต่ตอนนั้นตนก็หยุดไม่ได้จริง ๆ สำหรับญาติคนตายตนคิดว่าพูดตอนนี้ญาติก็อาจจะโมโหตน แต่ตนขอบอกเลยว่าไม่ได้อยากให้มันเกิดเรื่องแบบนี้ ตนไม่ได้เป็นคนเริ่ม ตนอยากให้มันจบที่ดีกว่านี้ แต่ตนทำลงไปแล้ว ก็ไม่รู้จะพูดยังไง ส่วนทางญาติคนเจ็บตนก็ไม่ได้รู้สึกผิดอะไร เพราะเขาจะมาทำร้ายร่ายกายตนเมื่อวาน เหมือนเขาตีงูตีหลังหักแล้วตีไม่ตาย ตนก็กลับมาเอาคืน เพราะว่าเมื่อวานเขาท้าทายมากเกิน ตนตั้งใจจะเอาให้ตายทั้งคู่ แต่ที่คนเจ็บไม่ตายเพราะได้เมียตนช่วยไว้