จับกุม หน่วยบริการประชาชนตำรวจทางหลวงแปลงยาว ต.หนองแหน อ.พนมสารคาม
จ.ฉะเชิงเทรา
สืบเนื่องมาจากปัจจุบันมีการลักลอบนำเข้าบุหรี่ที่มิได้เสียภาษีมาจากประเทศเพื่อนบ้านเป็นจำนวนมาก โดยใช้ถนนหลวงเส้นทางต่างๆ เพื่อนำไปส่งตามที่หมายที่ได้มีการสั่งซื้อ โดยใช้บริษัทขนส่งเอกชน เป็นสื่อกลางในการขนส่งระหว่างผู้ซื้อกับผู้ขาย
กองบัญชาการสอบสวนกลาง โดย กองบังคับการปราบปราม กองบังคับการตำรวจทางหลวง ได้ร่วมมือกันสืบสวนหาข่าวแหล่งที่มา เส้นทางที่ใช้ในการกระทำความผิดและรถยนต์ที่จะใช้ในการขนสินค้า จนกระทั่งสืบสวนทราบมาว่าวันที่ 22 มี.ค.2566 ช่วงหลังจากเวลา 18.00 น. จะมีการลักลอบขนบุหรี่จากชายแดน เข้ามาสต๊อกสินค้าไว้ในกรุงเทพฯและปริมณฑล ก่อนจะกระจายส่งต่อลูกค้าที่ได้สั่งซื้อโดยคนร้ายใช้รถบรรทุก 6 ล้อ สีขาว หมายเลขทะเบียน 73-5333 สมุทรปราการ ที่เป็นบริษัทขนส่งเอกชนในการขนเข้ามา
กองบังคับการปราบปราม จึงได้ร่วมกับตำรวจทางหลวงฉะเชิงเทรา วางแผนดักซุ่ม เฝ้าสกัดจับรถบรรทุกคันดังกล่าว จนกระทั่งเวลาประมาณ 21.00 น. รถบรรทุกคันดังกล่าว ได้ขับเข้ามายังเขตพื้นที่รับผิดชอบตำรวจทางหลวงฉะเชิงเทรา เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ขับขี่รถวิทยุตรวจการณ์ตำรวจทางหลวง
ไล่ติดตาม และได้ให้สัญญาณเพื่อให้หยุดจอด จนกระทั่งมาถึง ช่วงกิโลเมตรที่ 108 ต.ท่าถ่าน อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา สามารถบังคับรถบรรทุก 6 ล้อ ให้จอดชิดขอบทางด้านซ้ายได้ จึงได้แสดงตัวและเข้าทำการตรวจสอบ จากการตรวจสอบพบนายปิยะกุลฯ เป็นผู้ขับขี่รถบรรทุกคันดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เชิญตัวนายปิยะกุลฯ พร้อมทั้งรถบรรทุก 6 ล้อ คันดังกล่าวมายังหน่วยบริการประชาชนตำรวจทางหลวงแปลงยาว เพื่อทำการตรวจสอบ ด้วยความสมัครใจของนายปิยะกุลฯ เมื่อมาถึงหน่วยบริการฯ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดได้ขอทำการตรวจสอบสิ่งของที่บรรทุกมาภายในรถ โดยมีนายปิยะกุลฯ เป็นผู้เปิดประตู และเป็นผู้นำการตรวจสอบสิ่งของที่บรรทุกมานั้น ผลการตรวจสอบพบบุหรี่ที่ยังไม่ได้เสียภาษี จำนวน 1,438 คอตตอน จึงนำตัวนายปิยะกุลฯ พร้อมของกลาง ส่งพนักงานสอบสวน กองกำกับการ 2 กองบังคับการปราบปราม เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น นายปิยะกุลฯ ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การว่าตน ตนเองนั้นเป็นพนักงานของบริษัทฯ ขนส่งเอกชนแห่งหนึ่ง มีหน้าที่ขับบรรทุก 6 ล้อ รับ-ส่งสินค้าและพัสดุไปยังพื้นที่ต่างๆ ต่อมาในวันที่ 22 มีนาคม 2566 นายปิยะกุลฯ ได้ขับรถไปรับสินค้าที่บริษัทหลายแห่งในพื้นที่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว โดยมีพนักงานของบริษัทฯดังกล่าว เป็นผู้ขนขนสินค้าใส่ในรถบรรทุกฯ จากนั้นนายปิยะกุลฯ จึงขับขี่รถบรรทุกคันดังกล่าวเพื่อที่จะไปส่งสินค้าในพื้นที่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ จนกระทั่งมาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุม ที่ จ.ฉะเชิงเทรา