เพื่อขอความช่วยเหลือหลังถูกร้านจำหน่ายเครื่องประดับเพชร ไม่ส่งสินค้าให้ หลังจากโอนเงินค่าเครื่องประดับเพชร 4 รายการ เป็นเงินจำนวน 45,800 บาท
น.ส.สุธาสินี หนูอ้น อายุ 24 ปี ชาว จ.กาญจนบุรี ผู้เสียหายกล่าวว่า ตนติดตามเพจร้านเพชรร้านนี้มาประมาณ 7 เดือน และดูไลฟ์สดว่าเขามีสินค้าจริงมั้ย มีลูกค้าซื้อจริงมั้ย จนมั่นใจเลยตัดสินใจสั่งซื้อสินค้า ตนสั่งซื้อสินค้าไปวันที่ 6 มี.ค. และโอนเงินพร้อมส่งสลิปโอนเงินไป ทางร้านนัดส่งสินค้าวันที่ 30 เม.ย. แต่ทางร้านเลื่อนส่งของอ้างว่าโรงงานยังไม่ส่งของให้บอกขอเวลา 2 วัน พออีก 2 วันก็เลื่อนอีก ทางแอดมินแจ้งว่าทางโรงงานจะแจ้งมาอีกทีว่าพร้อมส่งของวันไหน และจะแจ้งให้ตนทราบ ประมาณต้นเดือน (ก่อนวันที่ 4 พ.ค.) ตนทักเพจร้านไปแต่ติดต่อไม่ได้ วันที่ 4 พ.ค. ทางร้านได้ปิดเพจหนีไป แอดมินติดต่อเจ้าของร้านได้ เงียบหาย ตนเลยรู้ตัวว่าโดนหลอก เลยไปแจ้งความที่สภ.พนมทวน จ.กาญจนบุรี ตนโอนเงินไปทั้งหมด 4 ครั้ง ทั้งหมด 45,800 บาท และมียอดผู้เสียหายตอนนี้ที่เข้ามารวมกลุ่มในไลน์ประมาณ 500 คน ยอดมูลค่ารวมๆทั้งหมดประมาณ 50 ล้านบาท ยอดแต่ละคนหลักแสนทั้งนั้น ซึ่งวันนี้ตนได้มาร้องเรียนทนายรัชพล ให้ช่วยเหลือแนะนำหาแนวทาง และให้คำปรึกษาว่าควรไปทางไหนต่อ จะดำเนินคดีหรือดำเนินการด้านไหน ให้เจ้าของร้านออกมาอธิบายถึงเหตุผลว่าทำไมปิดเพจไป อย่าหายเงียบไป ตนเชื่อมั่นในร้านนี้เพราะตนติดตามมากว่า 7 เดือน ผู้เสียหายบางคนติดตามร้านนี้มามากกว่า 3 ปี ที่สำคัญคือร้านเพชรนี้มีหน้าร้านชัดเจน มีสินค้าจริงรีวิว มีลูกค้าไปซื้อสินค้าหน้าร้าน ไม่อยากเชื่อว่าจะเป็นแบบนี้ บางครั้งไม่อยากจะเชื่อสิ่งที่ตาเห็นมากเกินไปเขาอาจจะเดินก้าวผิดหรือเปล่า อยากเตือนหลายๆคนไปหน้าร้านและซื้อหน้าร้านดีกว่า เดี๋ยวนี้ออนไลน์มันเยอะเพราะบางครั้งเราอยู่ต่างจังหวัดอาจจะไม่สะดวก ตนเปิดร้านอยู่ต่างจังหวัดยังมีส่งของให้ลูกค้า อยากให้มั่นใจในร้านในชัวร์ก่อนและค่อยสั่งสินค้าทุกครั้ง
ทนายรัชพล ศิริสาคร กล่าวว่าผู้ร้องเรียนเดินทางมาจากจังหวัดกาญจนบุรี เป็นตัวแทนของผู้เสียหายหลายคนที่ถูกร้านเพชร ร้านหนึ่งทางออนไลน์ไลฟ์สด เป็นร้านที่เปิดบริการมานาน5ปีแล้วและบริการดี ราคาไม่แพง และเป็นเพชรจากจีไอเอ เป็นเพชรที่รับประกันจากอเมริกาลูกค้าหลายคนจึงเลือกซื้อที่ร้านนี้ และมีรีวิวมากมาย และไม่คิดว่าจะถูกหลอก มีลูกค้าที่ถูกหลอกจำนวน 500 คนค่าเสียหายประมาณ 50 ล้านบาท ซึ่งผู้เสียหายมีหลากหลายจังหวัดที่ตำรวจรับเรื่องไว้ แต่มีผู้เสียหายที่เข้ามาร้องเรียนตนประมาณ 5-10 คน ที่ให้ตนเข้ามาทำคดีให้ ซึ่งในคดีถ้าเป็นการซื้อของและได้ของปลอม หรือซื้อของแล้วไม่ได้รับของ จะเข้าข้อหาฉ้อโกงประชาชน และการนำเข้าข้อมูลเท็จนำสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ผิด พรบ.คอม ส่วนในเรื่องของการให้ผู้เสียหายลงทุนซื้อโปรเติมเงินหรือซื้อสินค้า แต่ไม่นำของมาคืนตรงนี้จะเข้าข่ายเรื่องของแชร์ลูกโซ่ ซึ่งตามกฏหมายจะเข้าข้อหากู้ยืมเงินฉ้อโกงประชาชน คุก10ปี ปรับ1ล้านบาท ตอนนี้ตนได้รวบรวมหลักฐานจากผู้เสียหายเรียบร้อยแล้ว ในวันที่ 8 พ.ค.66 เวลา 13.00น. ตนจะไปยื่นเรื่องที่กองปราบ และผู้เสียหายอีกหลายคนก็จะเข้ามาเพิ่ม และมีทนายอีกหลายท่านที่ดูแลผู้เสียหายอยู่ ตนจะพาผู้เสียหายประมาณ 30 คนเดินทางเข้าไปแจ้งความที่กองปราบ และอยากฝากเตือนประชาชน จะซื้อขายหรือลงทุนออนไลน์ให้ระวัง เรื่องของราคาถูก ผลตอบแทนสูง มักจะมีความเสี่ยงสูงอยากให้ทุกคนระมัดระวัง