ตร.สภ.บางบัวทอง ออกตรวจจับ2 ต่างด้าวลักลอบขายน้ำปั่นและทุเรียน หลังส่วยสติกเกอร์หลากหลายรูปแบบระบาดหนักหลังวงการสีกากีมีส่วนเก็บส่วย

ตร.สภ.บางบัวทอง ออกตรวจจับ2 ต่างด้าวลักลอบขายน้ำปั่นและทุเรียน หลังส่วยสติกเกอร์หลากหลายรูปแบบระบาดหนักหลังวงการสีกากีมีส่วนเก็บส่วย

จากคำสั่งภูธรจังหวัดนนทบุรี ที่ 16.417 เรื่อง ระดมกวาดล้างบุคคลต่างด้าว ตำรวจภูธรจังหวัดนนทบุรี จึงสั่งการให้ทุก สภ.ในสังกัด และ กก.สส.ภ.จว.นนทบุรี ระดมกวาดล้างจับกุมบุคคลต่างด้าวที่กระทำผิดกฎหมาย โดยบูรณาการกำลังร่วมกับหน่วยอื่นที่เกี่ยวข้องและให้ควบคุม กำกับ ดูแล ห้ามมีให้ ตร.ในสังกัด เข้าไปยุ่งเกี่ยว หรือเรียกรับผลประโยชน์ หากมีการฝ่าฝืนให้ดำเนินการพิจารณาทัณฑ์ไปตามอำนาจหน้าที่

เมื่อเวลา 21.00 น.วันที่ 22 มิ.ย.2566 ที่ สภ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี พ.ต.อ.พฤฒ จำรูญศาสน์ ผกก.สภ.บางบัวทอง ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการพิเศษป้องกันปราบปราม ออกกวดขันจับกุมบุคคลต่างด้าวที่ทำผิดกฏหมาย ซึ่่งจับกุมตัว นายยางทน ชาวเมียนมา อายุ 37 ปี พ่อค้าขายน้ำปั่น ที่ตลาดนัดแยกบางพลู ในข้อหาว่า ทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตนอกเหนือจากสิทธิที่จะทำได้ และหลบหนีเข้าเมือง และนายตุลี่ อายุ 30 ปี ชาวลาว พ่อค้าขายทุเรียน ริมถนนบางกรวยไทรน้อย ในข้อหาว่า ทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตนอกเหนือจากสิทธิ์ที่จะทำได้
จับกุมได้ขณะกำลังขายสินค้า ที่บริเวณ ต.บางรักใหญ่ อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี

พ.ต.อ.พฤฒ จำรูญศาสน์ ผกก.สภ.บางบัวทอง กล่าวว่า หลังจากที่มีข่าวว่าตำรวจบางบัวทองมีส่วนเกี่ยวข้องในการเก็บส่วย เราก็แสดงให้เห็นว่าเราไม่มี ส่วนหนึ่งก็ตามหาว่าใครแอบอ้างว่าเป็นตำรวจบางบัวทอง อีกส่วนหนึ่งก็ได้ลงพื้นที่ปฏิบัติหน้าที่ให้ปรากฏจริงๆว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง เมื่อวานได้ออกตรวจก็เจอ 2 ราย ต่างด้าวเข้ามาประกอบอาชีพเป็นอาชีพต้องห้าม ก็คือต่างด้าวไม่สามารถประกอบอาชีพของตนเองได้ ซึ่งทั้ง2 คนที่จับมาเป็น ชาวลาว 1 คน ชาวเมียนม่า 1 คน จริงๆก็ขับรถผ่านหลายวันแล้วก็ไม่คิดว่าเขาจะทำ เมื่อวานเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ออกไปและตรวจสอบอย่างละเอียดก็พบว่าเป็นชาวต่างชาติ สามารถจับกุมได้ 2 รายและจะทำต่อเนื่องต่อไป อันดับแรกไม่ต้องผสาน ตม. ส่งตัวดำเนินคดีที่ศาล ข้อหาต่างด้าวประกอบอาชีพ หลังจากศาลพิพากษาและได้รับโทษจากศาลเรียบร้อย ก็จะรับตัวมาผลัดดันกลับประเทศ ขั้นตอนนี้ก็จะเป็นหน้าที่ของตรวจคนเข้าเมือง ก็อยากจะบอกว่าให้เลิกทำแบบนี้ และยิ่งมีข่าวแบบนี้อาจทำให้ตำรวจดีๆเสียชื่อ

นายเท่ อายุ 34 ปีประกอบอาชีพขายทุเรียเล่าว่า ตนขายทุเรียนมา 4-5 ปีแล้ว ตนก็ขายเองไม่เคยจ้างแรงงานต่างด้าว ตนคิดว่าที่แรงงานต่างด้าวเข้ามาขายของ เขาเหมืนมาแย่งอาชีพของคนไทย ให้คนไทยขายก็พอ ซึ่งร้านบางร้านที่จ้างแรงงานต่าวด้าวก็จะเป็นร้านใหญ่ๆขายดีๆเขาก็จ้าง ถ้าไปเป็นลูกจ้างก็ไม่เป็นไร แต่ถ้ามาเปิดขายเองก็เหมือนเป็นธุระกิจของเขาเองก็ไม่สมควร ซึ่งแรงงานต่างด้าวมีทุกที่ ถ้าจ้างแบบถูกกฏหมายก็ไม่เป็นไร ถ้าเป็นแรงงานต่างด้าวผิดกฏหมายตนก็อยากให้จับเลย เพราะตอนนี้เศษรฐกิจก็ไม่ดี แล้วยังมาแย่งขายอีกก็เหมือนแย่งอาชีพของคนไทย

นายหนุ่ย อายุ 54 ปีลูกค้าที่เข้ามาชื้ทุเรียนเล่าว่า คนไทยมองอาชีพนี้ด้วยหรือป่าว ธุระกิจนี้อาจจะเปิดให้ต่างด้าวมาขายด้วย เหมือนการให้ต่างด้าวมีรายได้ตรงนี้ คือจะเปิดเสรีไปไหมให้ต่างด้าวขายได้ แล้วคนไทยทำไมไม่ขาย ส่วนเรื่องเก็บส่วยในมุมมองของตนตนว่าไม่ค่อยดี ตนก็ไม่เห็นด้วย ตนคิดว่าบ้านเมืองของเราเรื่องกฏหมายมันหย่อนไป เรื่องของการต่างด้าวเข้ามาในประเทศได้ง่าย ไม่เหมือนตอนเราไปต่างประเทศสักประเทศกว่าจะเข้าบ้านเขาได้ก็ลำบาก เข้มงวดมากตรวจแล้วตรวจอีก มันเป็นช่องโหว่ ปล่อยปะละเลยมานานไม่ได้ทำจริงๆจังๆ ซึ่งมีมานานแล้วก่อนที่จะรู้ตรงนี้ ก็อยากให้เจ้าหน้าที่เข้มงวดกวดขันให้มากกว่านี้

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *