‘ชุดหนุมาน’ ลุยค้น 8 จุด 3 จังหวัด ล่าปิดบัญชีแก๊งทวงหนี้ค่ายาฯ ซ้อมน่วม-ขู่ตัดหู-รีดเงินแสน

กองปราบปรามชุด “หนุมาน” ลุยค้น 8 จุด 3 จังหวัด ยะลา-จ.นราธิวาส-ขอนแก่น ภายหลังตามจับนายทุนยาเสพติดและหัวหน้าแก๊งอุ้มได้สำเร็จ เผยมีเหยื่อรอดชีวิตมาร้องทุกข์และให้ข้อมูล อ้างถูกซ้อมจนซี่โครงหัก ขู่เอากรรไกรตัดหู รีดเอาเงินหลายแสน

เมื่อวันที่ 25 มิ.ย. พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป. พร้อมด้วย พ.ต.อ.พัฒนศักดิ์ บุบผาสุวรรณ รอง ผบก.ป.พ.ต.อ.พงศ์ปณต ชูแก้ว ผกก.6 บก.ป. พ.ต.อ.ภัทรพล ปัทมวงศ์ ผกก.สสน.บก.ป. นำกำลังเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการ กก.6 บก.ป. และ เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษหนุมานกองปราบ ตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส รวม 80 นาย เปิดปฏิบัติการ “ขอนแก่นนราล่าปิดบัญชีแก๊งเรียกค่าไถ่โหด” เข้าตรวจค้นเป้าหมาย 8 จุด แบ่งเป็นพื้นที่ จ.ยะลา 3 จุด จ.นราธิวาส 4 จุด และ จ.ขอนแก่น 1 จุด เพื่อกวาดล้างจับกุมขบวนการอุ้มเรียกค่าไถ่ทวงเงินยาเสพติดเนื่องจากเมื่อวันที่ 9 ก.ย. 2565 ได้มีกลุ่มชายฉกรรจ์พร้อมอาวุธบุกเข้าไปอุ้มตัว นายจี (นามสมมุติ) ผู้เสียหาย จากบ้านพักในพื้นที่ อ.ระแงะ จ.นราธิวาส ก่อนพาไปกักขังไว้ที่ห้องพักแห่งหนึ่งแล้วร่วมกันใช้กำลังทำร้ายร่างกายซ้อมทรมานจนเหยื่อได้รับบาดเจ็บสาหัส กระดูกซี่โครงหัก จากนั้นจึงโทรศัพท์ติดต่อไปหาญาติพี่น้องของเหยื่อโดยยื่นข้อเสนอให้นำเงินจำนวน 5 แสนมาให้เพื่อแลกกับการปล่อยตัว หากไม่ทำตามจะเอากรรไกรตัดหูเหยื่อให้ขาด หรือ ทรมานจนเสียชีวิต ทางญาติจึงขอต่อรองจ่ายให้ก่อนจำนวน 3 แสนบาท ส่วนที่เหลือจะทยอยหามาให้ กลุ่มคนร้ายจึงเริ่มใจอ่อน นัดหมายให้นำเงินมาส่งมอบให้ก่อนจำนวน 3 แสนบาท เมื่อวันที่ 12 ก.ย. โดยนัดหมายให้นำเงินมาวางไว้ที่ด่านโกลก จ.นราธิวาส เมื่อได้รับเงินแล้วจึงพาตัวนายจี มาปล่อยทิ้งไว้ริมถนนห่างจากบ้านพักประมาณ 3 กิโลเมตรอย่างไรก็ตาม หลังนายจี ได้รับการปล่อยตัว กลุ่มคนร้ายยังคงโทรศัพท์มาข่มขู่อย่างต่อเนื่อง เพื่อตามทวงเงินส่วนที่เหลืออีกจำนวน 2 แสนบาท ด้วยความหวาดกลัวผู้เสียหายจึงเร่งหาเงินมาให้ก่อนจำนวน 1 แสนบาท เพื่อให้สถานการณ์เบาลง แต่กลุ่มคนร้ายก็ยังคงพยายามข่มขู่ทวงส่วนที่เหลืออีก 1 แสนบาท ผู้เสียหายจึงตัดสินใจนำเรื่องเข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.ระแงะ จ.นราธิวาส แต่เมื่อเห็นว่าคดีไม่คืบหน้าเกรงจะไม่ปลอดภัย จึงนำเรื่อง เข้าร้องขอความช่วยเหลือกับทางตำรวจกองปราบ

หลังรับเรื่องเจ้าหน้าที่จึงจัดกำลังลงพื้นที่สืบสวนตรวจสอบข้อเท็จจริง จนทราบว่า มูลเหตุมาจากการที่ผู้เสียหายติดค้างเงินค่ายาเสพติดนานทุนยาเสพติดรายใหญ่ นายทุนยานรกคนดังกล่าว จึงว่าจ้างแก๊งรับจ้างอุ้มทวงหนี้ ซึ่งส่วนใหญ่ เป็นอดีตเจ้าหน้าที่ทหารพราน เจ้าหน้าที่อาสาสมัคร และ อดีตสมาชิกกลุ่มผู้ก่อความรุนแรงในพื้นที่มาก่อเหตุดังกล่าว จึงเร่งรวบรวมพยานหลักฐานจนนำมาสู่การออกหมายจับผู้ที่สีส่วนเกี่ยวข้องจำนวน 5 ราย ประกอบด้วย นายอับดุลรอนิง สาแร๊ะ อายุ 39 ปี อดีตสมาชิกผู้ก่อความรุนแรงในพื้นที่ หัวหน้าขบวนการ นายแอนดี มามะ อายุ 33 ปี อดีตสมาชิกผู้ก่อความรุนแรงในพื้นที่ รองหัวหน้าขบวนการ และ พวกที่ทำหน้าที่ประสานงาน รวมถึง ผู้จ้างวาน จนนำมาสู่การเปิดปฏิบัติการดังกล่าว

โดยจุดแรกที่เข้าตรวจค้นเป็นบ้านเลขที่ 992/59 ถนนประชาวิวัฒน์ ต.สุไหงโก-ลก อ. สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ซึ่งเป็นบ้านพักของ นายแอนดี มามะ อายุ 33 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ข้อหา “ร่วมกันกักขังหน่วงเหนี่ยวเพื่อให้ได้มาซึ่งค่าไถ่ โดยใช้วิธีทรมานทารุณโหดร้าย จนเป็นเหตุให้ผู้ถูกกระทำนั้นได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ และ ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นโดยทรมาน หรือ หรือกระทำทารุณโหดร้าย” ทั้งนี้ทันทีที่ไปถึงพบบ้านหลังดังกล่าวซึ่งเป็นบ้านพักชั้นเดียว เจ้าหน้าที่ได้กระจายกำลังปิดล้อมพื้นที่รอบตัวบ้าน ขณะที่นายแอนดีกำลังนอนพักผ่อนอยู่ จึงส่งสัญญาณเรียกให้เจ้าตัวเดินออกมาให้จับกุมตัวได้แต่โดยดี

นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังสามารถตามจับกุม นายอับดุลรอนิง สาแร๊ะ อายุ 39 ปี หัวหน้าแก๊งรับจ้างอุ้มเรียกค่าไถ่ ได้ที่บ้านพักในพื้นที่ จ.ยะลา พร้อมกับจับกุมตัวผู้จ้างวานซึ่งเป็นนายทุนยาเสพติด และพวกอีกรายได้ที่ จ.ขอนแก่น ซึ่งหลังจากนี้จะมีการแถลงสรุปรายละเอียดปฏิบัติการดังกล่าวอย่างเป็นทางการอีกครั้ง.

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *