อึ้ง! เวสป้า STER โดยค่าย อาร์เอส ฟ้องค่าละเมิดลิขสิทธิ์ 12 ล้านบาท เผยจะสู้ด้วยชีวิต ที่ผ่านมาไม่เคยได้รับค่าส่วนแบ่งลิขสิทธิ์ในเพลงที่แต่งเลย
กลายเป็นประเด็นร้อนในโลกออนไลน์ เมื่อนักร้องนักแต่งเพลงในตำนาน เวสป้า STER หรือ อิทธิพล เสนีย์วงศ์ ณ อยุธยา ได้ออกมาเปิดเผยว่า ตนถูกค่ายอาร์เอส RS ฟ้องค่าเสียหาย 12 ล้านบาท เพราะละเมิดลิขสิทธิ์ด้วยการร้องเพลงที่ตัวเองแต่ง พร้อมเปรยว่าคล้ายกรณีของ หนุ่ม กะลา ลั่น! จะสู้ต่อไปด้วยชีวิต
เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา เวสป้า STER ได้ออกมาโพสต์คลิปวิดีโอเล่าเรื่องราวที่เขากำลังโดนค่าย RS ฟ้อง ดังนี้
“ตอนนี้ผมโดนบริษัท RS ฟ้อง 12 ล้าน คดีละเมิดลิขสิทธิ์ ข้อหาก็คือร้องเพลงที่ตัวเองแต่งเองนี่แหละครับ ผมจะสู้ด้วยชีวิต เอาชีวิตผมไปเท่านั้นแหละครับ ที่จะให้ผมหยุดร้องเพลงผมเองได้
ผมจะสู้เพื่อความถูกต้อง ความยุติธรรม เพื่อพี่น้องนักร้องและนักแต่งเพลง ถ้าผมแพ้คดีนี้ ผมยินดีจะชดใช้เงินให้บริษัทเต็มจำนวน ถ้าประเทศนี้นักร้องที่แต่งเพลงเอง ร้องเพลงตัวเองไม่ได้ ถ้าผมไม่สามารถทำมาหากินได้ ก็เอาชีวิตผมไปแล้วกันครับ
ผมเวสป้าแต่งเพลงอะไรไว้บ้าง อย่างเช่น เป็นชู้ไม่รู้ตัว ติดปีกความคิดถึง แฟนใครโทรมา ไม่อาจเปลี่ยนใจ ทุกวินาที โลกทั้งใบให้นายคนเดียว เจ็บแปลบแอบมีเธอ ร้อยเหตุผล หญิงเดียวในใจ ไม่มีเหตุผล และอีกมากมาย
ผมและพี่น้องนักแต่งเพลงศิลปิน ไม่เคยได้รับส่วนแบ่งค่าลิขสิทธิ์เลย นักแต่งเพลงบางคนชีวิตลำบากยากจนมาก บางคนตายแบบไม่มีเงินซื้อโลงศพ
คอนเสิร์ตใหญ่ ๆ ที่จัดโดยนักร้องเพลงฮิตต่าง ๆ ทุกครั้ง ที่ใช้เพลงของเรา เราไม่เคยแม้แต่ได้สิทธิ์การเข้าชม เราไม่เคยได้สิทธิ์ในโลกยูทูบและดิจิทัลต่าง ๆ
เขาฟ้องผมมาเบื้องต้น 3 คดี 12 ล้านบาท ผมไปร้องเพลงไว้หลายที่ น่าจะโดนฟ้องอีกเป็นร้อยคดี คล้าย ๆ กับ หนุ่ม กะลา ตอนนั้นนะครับ”
ทั้งนี้เวสป้าเผยว่าในปัจจุบัน ตนกำลังทำธุรกิจแฟรนไชส์ ทำให้พอมีเงินอยู่บ้าง แต่คงไม่มากพอสำหรับการสู้คดี และได้ฝากฝังทีมทำเพลงของตน สำหรับคนที่ต้องการหาเพลงดี ๆ เนื่องจากตอนนี้ตนได้แต่งเพลงเก็บเอาไว้มากถึง 4,000 เพลงเลยทีเดียว
ส่วนประเด็นการฟ้องร้องในปัจจุบัน เวสป้า STER เผยว่าไม่อยากให้ไปโจมตีฝั่งอาร์เอส เพราะเข้าใจว่าต้องฟ้องตามรูปแบบการทำงานของบริษัท ไม่ได้โกรธเกลียดกันแต่อย่างใด เข้าใจว่าบริษัทมองว่าต้องได้ค่าลิขสิทธิ์ แต่เวสป้าแนะว่าควรมีราคาที่เป็นธรรมและเหมาะสม
นอกจากนี้เวสป้ายังได้บอกอีกว่า สัญญาที่เคยเซ็นให้ในยุคก่อน ตนไม่ได้เซ็นมอบสิทธิในการเผยแพร่ต่อสาธารณชนให้ ฉะนั้นมันก็ควรเป็นของตนบ้าง พร้อมลั่นว่าคดีนี้จะไม่มีการยอมความ ให้ศาลเป็นผู้ตัดสินว่าสิทธิ์เพลงเป็นของใคร พร้อมสู้ด้วยชีวิต.