ทักษิณกลับบ้าน เพิ่มความมั่นคงให้การโหวตแคนดิเดตนายกฯ เพื่อไทย

นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและนักโทษหนีคดีมากว่า 15 ปี ยืนยันว่าจะเดินทางกลับประเทศไทยในวันอังคารที่ 22 สิงหาคมนี้ ซึ่งเป็นวันเดียวกันกับการประชุมสภาเพื่อลงคะแนนเสียงว่าจะรับรองนายเศรษฐา ทวีสิน ตัวแทนพรรคเพื่อไทยเป็นนายกรัฐมนตรีหรือไม่

“พรุ่งนี้ 9 โมงเช้า ผมขออนุญาตกลับไปอยู่อาศัยบนผืนแผ่นดินไทย และร่วมอากาศหายใจกับพี่น้องคนไทยด้วยคนนะครับ” นายทักษิณโพสต์ข้อความทางทวิตเตอร์ ในช่วงบ่ายวันจันทร์นี้

ด้าน น.ส. แพทองธาร “อุ๊งอิ๊งค์” ชินวัตร แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทยอีกคนหนึ่ง กล่าวว่า การตัดสินใจเดินทางกลับประเทศไทยของนายทักษิณ บิดาของตน เป็นสิ่งที่ไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง และพรรคเพื่อไทยยังพร้อมสนับสนุนให้นายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรี

“เขา (นายทักษิณ) ไม่ได้คิด ในเรื่องของการเมือง หรือว่าเป็นตัวประกันอะไรอย่างงี้ คิดว่า กลับมาแล้วปลอดภัย แล้วก็รอวันที่จะได้อยู่กับลูกหลาน… การตัดสินใจครั้งนี้ของท่าน เป็นการตัดสินใจของท่านเอง ไม่ได้มีใครหลอก หรือว่าท่านก็ไม่ได้หลอกใคร” น.ส. แพทองธาร กล่าวกับสื่อมวลชนในวันอาทิตย์

น.ส. แพทองธาร ระบุว่า นายทักษิณ จะเดินทางถึงท่าอากาศยานดอนเมือง ในเวลา 09.00 น. ของวันอังคาร และสมาชิกครอบครัวชินวัตร จะเดินทางไปต้อนรับ โดยหลังจากนั้นนายทักษิณจะถูกพาตัวไปที่ศาลฎีกา เพื่อดำเนินการเกี่ยวกับคดีความซึ่งนายทักษิณเคยถูกพิพากษาจำคุก

พรรคเพื่อไทย ซึ่งมีความสัมพันธ์เป็นเครื่องมือทางการเมืองของนายทักษิณ กำลังลุ้นให้นายเศรษฐาผ่านความเห็นชอบของสมาชิกรัฐสภาเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 และให้การจัดตั้งรัฐบาลลุล่วงไปด้วยดี

โดยในวันนี้ นายชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยสมาชิกพรรคพันธมิตรอีกสิบพรรคได้ประกาศแนวร่วมในการจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ โดยได้เชิญพรรคพลังประชารัฐ และพรรครวมไทยสร้างชาติ มาร่วมรัฐบาลด้วยทำให้มีเสียงสนับสนุน 314 เสียง จากที่ต้องการประมาณ 375 เสียง หรือเกินกึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกรัฐสภาที่มีในขณะใด ๆ  

เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา น.ส. แพทองธาร ได้กล่าวตอบข้อสงสัย ที่ว่าการกลับมาของนายทักษิณเกิดขึ้นได้เพราะมีดีลลับในการจัดตั้งรัฐบาล โดยไม่มีพรรคก้าวไกลที่มีนโยบายแข็งกร้าวต่อกลุ่มอำนาจเก่าเข้าร่วม

“วันฤกษ์ดี ทุกคนก็อยากให้ทุกวันเป็นวันที่ดี 22 แน่นอน ไม่มีดีล ไม่ได้ดีลกับใครเลย” น.ส. แพทองธาร กล่าวกับผู้สื่อข่าวที่มหาวิทยาลัยกรุงเทพ ธนบุรี เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมานี้ โดยระบุถึงสาเหตุที่นายทักษิณเลือกเดินทางกลับในวันพรุ่งนี้

“อิ๊งค์เข้าใจว่าคุณพ่อคงถูกแยกออกจากการเมืองได้ยาก แต่ว่าการกลับมาของคุณพ่อ ก็คือการกลับมาของประชาชนคนไทยคนหนึ่ง ที่มีสิทธิ์กลับมาประเทศบ้านเกิดเมืองนอนของตัวเอง… จริง ๆ แล้ว เขาไม่ได้คิดในเรื่องของการเมือง หรือว่าเป็นตัวประกันอะไรอย่างงี้ คิดว่ากลับมาแล้วปลอดภัย แล้วก็รอวันที่จะได้อยู่กับลูกหลาน” น.ส. แพทองธาร กล่าวเพิ่มเติม

ด้าน ดร. ณัฐกร วิทิตานนท์ คณะรัฐศาสตร์และรัฐประศาสนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กล่าวว่า นายทักษิณ ซึ่งถูกพิพากษาจำคุกเป็นเวลา 10 ปี จากหลายคดี แม้จะสามารถขอพระราชทานอภัยโทษได้หากผ่านเงื่อนไข แต่ก็ยังไม่แน่นอนนัก

“เพราะโดยปกติก่อนจะขอพระราชทานอภัยโทษได้ ต้องติดคุกมาก่อน 1 ส่วน 3 ของโทษทั้งหมด… หากมองถึงความผิดฐานทุจริต ก็มีความเป็นไปได้ที่จะไม่ได้รับพระราชทานอภัยโทษ สถานการณ์จึงไม่น่าไว้วางใจ” ดร. ณัฐกร กล่าวกับเบนาร์นิวส์

หลังจากโดนรัฐประหารเมื่อเดือนกันยายน 2549 นายทักษิณได้เคยเดินทางกลับมาเมืองไทยครั้งหนึ่ง ในเดือนกุมภาพันธ์ 2551 ในสมัยที่พรรคพลังประชาชนได้รับการเลือกตั้งและจัดตั้งรัฐบาลภายใต้การนำของนายสมัคร สุนทรเวช ระหว่างนั้น นายทักษิณต้องเดินทางไปขึ้นศาลเพื่อต่อสู้คดี ซึ่งถูกฟ้องร้องว่ากระทำผิดขณะเป็นนายกรัฐมนตรี กระทั่งในเดือนสิงหาคม ปีเดียวกัน เขาได้ขออนุญาตศาลเพื่อเดินทางไปดูการแข่งขันโอลิมปิกที่ประเทศจีน และไม่เคยเดินทางกลับประเทศไทยอีกเลย

ในครั้งนี้ ผู้สันทัดกรณีทางการเมืองไทยเชื่อว่า เป็นไปไม่ได้ที่นายทักษิณจะกลับมาโดยไม่มีดีลทางการเมืองกับผู้มีอำนาจ

“ถ้าเราเข้าใจเรื่องรัฐพันลึกโครงสร้างระบบการเมืองไทย มันไม่ได้แปลว่ามันจบที่สภา หรือรัฐบาล มันมีหลายขั้วอำนาจ ลุงโทนี่ ถ้าไม่กลับมา การจัดรัฐบาลของเพื่อไทยก็จะมีปัญหา เพราะขั้วอำนาจอีกขั้วนึงจะมีหลักประกันอะไรว่าบ้านเมืองจะเปลี่ยนแปลงไปตามแบบที่เขาต้องการ เช่น การแก้ไขรัฐธรรมนูญ หรือการที่จะต้องแน่ใจว่าไม่มีพรรคการเมืองไหน ทำตัวออกนอกเส้นนอกแนว” รศ.ดร. ธนพร ศรียากูล นายกสมาคมรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กล่าวกับเบนาร์นิวส์

ถ้าหากว่านายเศรษฐาไม่ผ่านการรับรองของรัฐสภาแล้ว น.ส. แพทองธาร ได้รับการเสนอชื่อเป็นคนถัดไป รศ.ดร. ธนพร เชื่อว่านายทักษิณจะยังคงมีอิทธิพลต่อการเมืองไทยอยู่ในระดับสูง

“ถ้าลูกเขาเป็นนายก เขาก็มีอิทธิพลแน่ ๆ เราอาจจะได้เห็นภาพรัฐมนตรีไปขอนโยบายจากคุณทักษิณที่เรือนจำก็ได้ และถ้าเกิดมีลูกเป็นนายก การติดคุกมันก็สะดวก การติดมันก็ต้องสั้น เพราะเงื่อนไขการติดคุกจะอยู่ในอำนาจของฝ่ายบริหารทั้งหมด เชื่อว่าต้องได้รับการดูแลอย่างดี” รศ.ดร. ธนพร กล่าวเพิ่มเติม

ในตอนบ่ายวันนี้ พรรคเพื่อไทยได้ประกาศจัดตั้งรัฐบาล 11 พรรค โดยมี “พรรคสองลุง” ร่วมด้วย

“เหตุผลสำคัญที่สุดคือ พรรคร่วมรัฐบาล 312 เสียงเดิม ที่มีพรรคก้าวไกล เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ไม่สามารถจัดตั้งได้ หากไม่ดึงทั้งสองพรรคมาร่วมก็ไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ ซึ่งหากเราจัดตั้งรัฐบาลไม่ได้ ก็ไม่ทราบว่าจะเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดอะไรขึ้น ซึ่งอาจจะเป็นผลร้ายกับประเทศได้” นพ. ชลน่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวกับผู้สื่อข่าว

“ฉะนั้น เราได้มุ่งมั่นทำในสิ่งที่ดีเพื่อประเทศและประชาชน คือต้องมีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งให้ได้ โดยมีพรรคเพื่อไทย เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ดังนั้น การที่พรรคเพื่อไทยจะไปเป็นนั่งร้านให้พรรคอื่นนั้นเป็นไปไม่ได้เลย”

นายทักษิณ อายุ 74 ปี อดีตหัวหน้าพรรคไทยรักไทย เคยชนะการเลือกตั้งและเป็นนายกรัฐมนตรี ระหว่างปี 2544-2549 ถูกพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย หรือคนเสื้อเหลือง ชุมนุมขับไล่ และถูกทำรัฐประหารโดยคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (คปค.) ในวันที่ 19 กันยายน 2549 ระหว่างที่นายทักษิณเดินทางประชุมสหประชาชาติ ที่สหรัฐอเมริกา ทำให้นายทักษิณต้องลี้ภัยอยู่ในต่างประเทศเป็นเวลายาวนาน  //คนข่าว

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *