สุดอำมหิต!!! ‘ไอติม’เสียใจเหตุกราดยิงพารากอน ชง 3 แนวทางล้อมคอก

อย่าปล่อยให้คนทำอำมหิตได้แสง!!! “ไอติม”แสดงความเสียใจเหตุกราดยิงพารากอน ชง 3 แนวทางล้อมคอก “ทำระบบแจ้งเตือนภัย-ทบทวนกฎหมายครองปืน-งดประโคมข่าวคนร้าย”

เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 2566 ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มี นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน  รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 2 ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม ทั้งนี้ ก่อนเข้าสู่ระเบียบวาระ ได้ให้ ส.ส.หารือถึงปัญหาความเดือดร้อนต่างๆ โดย นายพริษฐ์ วัชรสินธุ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล (ก.ก.) ได้หารือถึงกรณีเหตุการณ์กราดยิงที่สยามพารากอน เมื่อช่วงเย็นวันที่ 3 ต.ค.ที่ผ่านมา ว่า ขอใช้พื้นที่สภาแห่งนี้แสดงความเสียใจต่อผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์กราดยิงที่สยามพารากอน และขอเสนอส่งต่อข้อเสนอ 3 ด้าน ไปยังหน่วยงานรัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำอีกในอนาคต คือ 1.เป็นเรื่องระบบแจ้งเตือนภัย เหตุการณ์เมื่อวานนี้เป็นอีกเหตุการณ์ที่ประชาชนในพื้นที่ ไม่ได้รับการแจ้งเตือนผ่าน sms จากหน่วยงานรัฐ ต้องอาศัยระบบการแจ้งเตือนภัยจากเอกชน หรือการค้นหาข้อมูลกันเองในสื่อโซเชียล จึงขอหารือท่านประธานผ่านไปยังกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม , กสทช.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้เร่งรัดแผนการพัฒนาระบบแจ้งเตือนภัยแบบ Cell Broadcast ที่จะเป็นการส่งข้อความเข้ามือถือทุกเครื่องในพื้นที่เกิดเหตุ

นายพริษฐ์ กล่าวต่อว่า 2.เป็นเรื่องการครอบครองอาวุธปืน แม้ปืนที่ใช้ก่อเหตุเมื่อวานนี้เป็นปืนดัดแปลง แต่การที่ประเทศไทยนั้นมีอัตราผู้เสียชีวิตจากอาชญากรรมสูงอาวุธปืนสูงเป็นอันดับที่ 3 ของทวีปเอเชีย ก็เป็นสัญญาณบ่งบอกว่าเราอาจจำเป็นต้องทบทวนเรื่องการครอบครองอาวุธปืนทั้งระบบ จึงขอหารือท่านประธานผ่านกระทรวงมหาดไทยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้หาแนวทางปรับปรุงกฎหมายขออนุญาตใช้ปืนในระบบให้ครอบคลุมประเภทอาวุธมากขึ้น รวมไปถึงปรับปรุงมาตรการปิดช่องทางการค้าขายปืนนอกระบบให้มีความรัดกุมมากขึ้น และ 3.เป็นเรื่องข้อมูลเกี่ยวกับผู้ก่อเหตุและการป้องกันพฤติกรรมการเลียนแบบ ตั้งแต่เกิดเหตุ เราเห็นการเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับตัวตนและประวัติของผู้ก่อเหตุอย่างกว้างขวาง”แม้ผู้เชี่ยวชาญและงานวิจัยชี้ชัดว่าการประโคมข่าวในลักษณะดังกล่าวนั้น จะมีความสุ่มเสี่ยงที่อาจจะเกิดพฤติกรรมเลียนแบบ ดังนั้น อยากจะหารือท่านประธานผ่านไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการงดแชร์เรื่องราวของผู้ก่อเหตุ ช่วยส่งสัญญาณไปทั่วประเทศว่า การกระทำอันอำมหิตต่อเพื่อนมนุษย์แบบนี้ จะไม่มีวันทำให้ได้แสงและความสนใจกับใครสักคนแม้แต่นิดเดียว” นายพริษฐ์ กล่าว

//ฅนข่าว

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *