มท.1″ย้ำอีกครั้งเปิดลงทะเบียนเพื่อแก้ไม่ใช่ยกหนี้นอกระบบ

“อนุทิน” ย้ำลูกหนี้อย่าดีใจเปิดลงทะเบียนแก้หนี้นอกระบบ หวังช่วยไกล่เกลี่ยให้เกิดความเป็นธรรมทุกฝ่าย ด้านเจ้าหน้าที่เขตแนะเตรียมบัตรประชาชน โดยเฉพาะหลักฐานการเป็นหนี้ให้พร้อม

กำลังโหลด

“มท.1″ย้ำอีกครั้งเปิดลงทะเบียนเพื่อแก้ไม่ใช่ยกหนี้นอกระบบ

"มท.1"ย้ำอีกครั้งเปิดลงทะเบียนเพื่อแก้ไม่ใช่ยกหนี้นอกระบบ

01 ธันวาคม 2566

613

“อนุทิน” ย้ำลูกหนี้อย่าดีใจเปิดลงทะเบียนแก้หนี้นอกระบบ หวังช่วยไกล่เกลี่ยให้เกิดความเป็นธรรมทุกฝ่าย ด้านเจ้าหน้าที่เขตแนะเตรียมบัตรประชาชน โดยเฉพาะหลักฐานการเป็นหนี้ให้พร้อม

1 ธันวาคม 2566 ถือเป็นวันแรกในการคิกออฟเปิดให้ประชาชนลงทะเบียนทั้งทางออนไลน์และวอล์คอิน เพื่อแสดงตัวตน ขอแก้หนี้นอกระบบ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งโครงการที่รัฐบาล นำโดย “นายเศรษฐา ทวีสิน” นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง กับความพยายามคืนศักดิ์ศรีและรอยยิ้ม เพราะคือหนึ่งปัญหาใหญ่ที่กัดกร่อนสังคมไทยตลอดมา

โดย “นายอนุทิน ชาญวีรกูล” รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย กล่าวว่า การเปิดให้ผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนจากปัญหาหนี้นอกระบบ ลงทะเบียน เพื่อขอความช่วยเหลือจากกลไกของรัฐ วันแรก สามารถทำได้ 3 ช่องทาง คือ

  • ศูนย์ดำรงธรรมของจังหวัด
  • ที่ว่าการอำเภอ
  • ผ่านออนไลน์ โดยทางอำเภอจะลงพื้นที่สำรวจในพื้นที่ชุมชนและหมู่บ้าน

ส่วนปัญหาเจ้าหนี้กลัวถูกตรวจสอบภาษี จนไม่กล้ามาไกล่เกลี่ยกับลูกหนี้นั้น โดยรัฐบาลต้องการให้เกิดความเป็นธรรม และย้ำว่าโครงการนี้ไม่ใช่การลดหนี้ ยกหนี้ พักหนี้ และไม่ได้ใช้หนี้ให้ แต่เป็นการให้ความเป็นธรรมกับเจ้าหนี้และลูกหนี้ ซึ่งถ้าคิดดอกเบี้ยที่เป็นธรรม ลูกหนี้ก็จะสามารถใช้หนี้ได้ เจ้าหนี้ก็ไม่ถูกเบี้ยวหนี้ เจ้าหนี้ไม่ต้องไปกดดัน กดขี่ ข่มเหง หรือใช้วิธีทวงหนี้ที่ผิดกฎหมาย ซึ่งเป็นเจตนารมณ์ของรัฐบาล ที่ต้องการให้เกิดความเป็นธรรม ไม่เสียหายกับลูกหนี้และเจ้าหนี้ ยืนยันลูกหนี้ยังเป็นหนี้อยู่ โดยมีอัตราดอกเบี้ยที่สามารถหามาใช้ได้

กำลังโหลด

“มท.1″ย้ำอีกครั้งเปิดลงทะเบียนเพื่อแก้ไม่ใช่ยกหนี้นอกระบบ

"มท.1"ย้ำอีกครั้งเปิดลงทะเบียนเพื่อแก้ไม่ใช่ยกหนี้นอกระบบ

01 ธันวาคม 2566

613

“อนุทิน” ย้ำลูกหนี้อย่าดีใจเปิดลงทะเบียนแก้หนี้นอกระบบ หวังช่วยไกล่เกลี่ยให้เกิดความเป็นธรรมทุกฝ่าย ด้านเจ้าหน้าที่เขตแนะเตรียมบัตรประชาชน โดยเฉพาะหลักฐานการเป็นหนี้ให้พร้อม

1 ธันวาคม 2566 ถือเป็นวันแรกในการคิกออฟเปิดให้ประชาชนลงทะเบียนทั้งทางออนไลน์และวอล์คอิน เพื่อแสดงตัวตน ขอแก้หนี้นอกระบบ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งโครงการที่รัฐบาล นำโดย “นายเศรษฐา ทวีสิน” นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง กับความพยายามคืนศักดิ์ศรีและรอยยิ้ม เพราะคือหนึ่งปัญหาใหญ่ที่กัดกร่อนสังคมไทยตลอดมา

โดย “นายอนุทิน ชาญวีรกูล” รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย กล่าวว่า การเปิดให้ผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนจากปัญหาหนี้นอกระบบ ลงทะเบียน เพื่อขอความช่วยเหลือจากกลไกของรัฐ วันแรก สามารถทำได้ 3 ช่องทาง คือ

  • ศูนย์ดำรงธรรมของจังหวัด
  • ที่ว่าการอำเภอ
  • ผ่านออนไลน์ โดยทางอำเภอจะลงพื้นที่สำรวจในพื้นที่ชุมชนและหมู่บ้าน

ส่วนปัญหาเจ้าหนี้กลัวถูกตรวจสอบภาษี จนไม่กล้ามาไกล่เกลี่ยกับลูกหนี้นั้น โดยรัฐบาลต้องการให้เกิดความเป็นธรรม และย้ำว่าโครงการนี้ไม่ใช่การลดหนี้ ยกหนี้ พักหนี้ และไม่ได้ใช้หนี้ให้ แต่เป็นการให้ความเป็นธรรมกับเจ้าหนี้และลูกหนี้ ซึ่งถ้าคิดดอกเบี้ยที่เป็นธรรม ลูกหนี้ก็จะสามารถใช้หนี้ได้ เจ้าหนี้ก็ไม่ถูกเบี้ยวหนี้ เจ้าหนี้ไม่ต้องไปกดดัน กดขี่ ข่มเหง หรือใช้วิธีทวงหนี้ที่ผิดกฎหมาย ซึ่งเป็นเจตนารมณ์ของรัฐบาล ที่ต้องการให้เกิดความเป็นธรรม ไม่เสียหายกับลูกหนี้และเจ้าหนี้ ยืนยันลูกหนี้ยังเป็นหนี้อยู่ โดยมีอัตราดอกเบี้ยที่สามารถหามาใช้ได้

เริ่มแล้ว “ลงทะเบียนแก้หนี้นอกระบบ” ดูขั้นตอนง่ายๆ ทำได้ด้วยตัวเอง

ใครเป็นหนี้และอยากได้รับการช่วยเหลือรัฐเปิดลงทะเบียนทั่วประเทศ 1 ธ.ค.นี้

ผู้ว่าฯ สงขลารับลูกการแก้หนี้นอกระบบ ด้าน ปชช.เห็นแย้ง ทำไม่ได้

ส่วนกรอบเวลาที่จะเห็นผลสำเร็จของการแก้หนี้นั้น ขอให้รอฟังรายละเอียดในวันที่ 8 ธ.ค. โดย “นายเศรษฐา ทวีสิน” นายกรัฐมนตรี จะเป็นประธาน Kick Off กับหน่วยงานที่จะดำเนินการ คือ นายอำเภอ และ ผู้กำกับสถานีตำรวจภูธรทั่วประเทศ ซึ่งจะจัดขึ้นที่เมืองทองธานี พร้อมย้ำว่า การแก้หนี้เป็นขั้นตอนการไกล่เกลี่ย ไม่ได้มีเจตนาที่จะขุดคุ้ยปูมหลัง ขออย่าเป็นกังวล เป็นเรื่องของหน่วยงานอื่น เพราะไม่มีเวลาไปขยายผลเรื่องอื่นๆ

สำหรับกระบวนการไกล่เกลี่ยนั้น เชื่อว่าเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน มีทั้งศาสตร์และศิลป์ ในการเข้าไกล่เกลี่ย ประนีประนอม คงไม่มีวิธีการเป็นขั้นตอนที่ชัดเจน หากเมื่อมีการไกล่เกลี่ยแล้ว เจ้าหนี้ไม่ยอมมาไกล่เกลี่ย ก็ต้องเอาสัญญากู้เงินมาดู ถ้าตรงไหนขัดต่อกฎหมาย ก็ไม่ต้องปฏิบัติตาม และจะมีการคุ้มครองให้เกิดความเป็นธรรม แต่ถ้าเจ้าหนี้ยังคิดดอกเบี้ยในอัตราที่สูง จนเกินความสามารถที่ลูกหนี้จะชำระหนี้ได้นั้น ส่วนนั้นก็จะหายไป แต่โครงการของรัฐบาลจะให้วินวินทั้งสองฝ่าย คือ เจ้าหนี้ได้เงินคืน ไม่มีการเบี้ยวหนี้ ลูกหนี้ก็จะได้อัตราดอกเบี้ยที่ลดลง ซึ่งจะเกิดความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย

“ผมย้ำว่า ลูกหนี้อย่าดีใจ เพราะไม่ใช่การพักหนี้ ลูกหนี้ต้องจ่ายทุกบาท ทุกสตางค์ และที่เข้าใจว่ารัฐบาลจะจ่ายหนี้ให้นั้นไม่ใช่ แต่เป็นการช่วยลดอัตราดอกเบี้ย เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมมากกว่า ขอให้ช่วยประชาสัมพันธ์ด้วย จะได้ไม่เข้าใจผิด ย้ำว่าหนี้ใครหนี้มัน” นายอนุทิน ระบุ

กำลังโหลด

“มท.1″ย้ำอีกครั้งเปิดลงทะเบียนเพื่อแก้ไม่ใช่ยกหนี้นอกระบบ

"มท.1"ย้ำอีกครั้งเปิดลงทะเบียนเพื่อแก้ไม่ใช่ยกหนี้นอกระบบ

01 ธันวาคม 2566

613

“อนุทิน” ย้ำลูกหนี้อย่าดีใจเปิดลงทะเบียนแก้หนี้นอกระบบ หวังช่วยไกล่เกลี่ยให้เกิดความเป็นธรรมทุกฝ่าย ด้านเจ้าหน้าที่เขตแนะเตรียมบัตรประชาชน โดยเฉพาะหลักฐานการเป็นหนี้ให้พร้อม

1 ธันวาคม 2566 ถือเป็นวันแรกในการคิกออฟเปิดให้ประชาชนลงทะเบียนทั้งทางออนไลน์และวอล์คอิน เพื่อแสดงตัวตน ขอแก้หนี้นอกระบบ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งโครงการที่รัฐบาล นำโดย “นายเศรษฐา ทวีสิน” นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง กับความพยายามคืนศักดิ์ศรีและรอยยิ้ม เพราะคือหนึ่งปัญหาใหญ่ที่กัดกร่อนสังคมไทยตลอดมา

โดย “นายอนุทิน ชาญวีรกูล” รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย กล่าวว่า การเปิดให้ผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนจากปัญหาหนี้นอกระบบ ลงทะเบียน เพื่อขอความช่วยเหลือจากกลไกของรัฐ วันแรก สามารถทำได้ 3 ช่องทาง คือ

  • ศูนย์ดำรงธรรมของจังหวัด
  • ที่ว่าการอำเภอ
  • ผ่านออนไลน์ โดยทางอำเภอจะลงพื้นที่สำรวจในพื้นที่ชุมชนและหมู่บ้าน

ส่วนปัญหาเจ้าหนี้กลัวถูกตรวจสอบภาษี จนไม่กล้ามาไกล่เกลี่ยกับลูกหนี้นั้น โดยรัฐบาลต้องการให้เกิดความเป็นธรรม และย้ำว่าโครงการนี้ไม่ใช่การลดหนี้ ยกหนี้ พักหนี้ และไม่ได้ใช้หนี้ให้ แต่เป็นการให้ความเป็นธรรมกับเจ้าหนี้และลูกหนี้ ซึ่งถ้าคิดดอกเบี้ยที่เป็นธรรม ลูกหนี้ก็จะสามารถใช้หนี้ได้ เจ้าหนี้ก็ไม่ถูกเบี้ยวหนี้ เจ้าหนี้ไม่ต้องไปกดดัน กดขี่ ข่มเหง หรือใช้วิธีทวงหนี้ที่ผิดกฎหมาย ซึ่งเป็นเจตนารมณ์ของรัฐบาล ที่ต้องการให้เกิดความเป็นธรรม ไม่เสียหายกับลูกหนี้และเจ้าหนี้ ยืนยันลูกหนี้ยังเป็นหนี้อยู่ โดยมีอัตราดอกเบี้ยที่สามารถหามาใช้ได้

เริ่มแล้ว “ลงทะเบียนแก้หนี้นอกระบบ” ดูขั้นตอนง่ายๆ ทำได้ด้วยตัวเอง

ใครเป็นหนี้และอยากได้รับการช่วยเหลือรัฐเปิดลงทะเบียนทั่วประเทศ 1 ธ.ค.นี้

ผู้ว่าฯ สงขลารับลูกการแก้หนี้นอกระบบ ด้าน ปชช.เห็นแย้ง ทำไม่ได้

ส่วนกรอบเวลาที่จะเห็นผลสำเร็จของการแก้หนี้นั้น ขอให้รอฟังรายละเอียดในวันที่ 8 ธ.ค. โดย “นายเศรษฐา ทวีสิน” นายกรัฐมนตรี จะเป็นประธาน Kick Off กับหน่วยงานที่จะดำเนินการ คือ นายอำเภอ และ ผู้กำกับสถานีตำรวจภูธรทั่วประเทศ ซึ่งจะจัดขึ้นที่เมืองทองธานี พร้อมย้ำว่า การแก้หนี้เป็นขั้นตอนการไกล่เกลี่ย ไม่ได้มีเจตนาที่จะขุดคุ้ยปูมหลัง ขออย่าเป็นกังวล เป็นเรื่องของหน่วยงานอื่น เพราะไม่มีเวลาไปขยายผลเรื่องอื่นๆ

สำหรับกระบวนการไกล่เกลี่ยนั้น เชื่อว่าเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน มีทั้งศาสตร์และศิลป์ ในการเข้าไกล่เกลี่ย ประนีประนอม คงไม่มีวิธีการเป็นขั้นตอนที่ชัดเจน หากเมื่อมีการไกล่เกลี่ยแล้ว เจ้าหนี้ไม่ยอมมาไกล่เกลี่ย ก็ต้องเอาสัญญากู้เงินมาดู ถ้าตรงไหนขัดต่อกฎหมาย ก็ไม่ต้องปฏิบัติตาม และจะมีการคุ้มครองให้เกิดความเป็นธรรม แต่ถ้าเจ้าหนี้ยังคิดดอกเบี้ยในอัตราที่สูง จนเกินความสามารถที่ลูกหนี้จะชำระหนี้ได้นั้น ส่วนนั้นก็จะหายไป แต่โครงการของรัฐบาลจะให้วินวินทั้งสองฝ่าย คือ เจ้าหนี้ได้เงินคืน ไม่มีการเบี้ยวหนี้ ลูกหนี้ก็จะได้อัตราดอกเบี้ยที่ลดลง ซึ่งจะเกิดความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย

“ผมย้ำว่า ลูกหนี้อย่าดีใจ เพราะไม่ใช่การพักหนี้ ลูกหนี้ต้องจ่ายทุกบาท ทุกสตางค์ และที่เข้าใจว่ารัฐบาลจะจ่ายหนี้ให้นั้นไม่ใช่ แต่เป็นการช่วยลดอัตราดอกเบี้ย เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมมากกว่า ขอให้ช่วยประชาสัมพันธ์ด้วย จะได้ไม่เข้าใจผิด ย้ำว่าหนี้ใครหนี้มัน” นายอนุทิน ระบุ

ออมสินขานรับนโยบายรัฐ “แก้หนี้นอกระบบ” ปล่อยกู้ 5 หมื่นบาทต่อราย

นายกฯ ดึง ปกครอง-คลัง-ตำรวจ แก้หนี้นอกระบบ

สำหรับบรรยากาศการเปิดให้ลงทะเบียนวันแรกนั้น หลังกระทรวงมหาดไทย สั่งการให้แต่ละจังหวัดจัดตั้ง “ศูนย์อำนวยการแก้ไขหนี้นอกระบบ” เพื่อให้ลูกหนี้นอกระบบที่มีความประสงค์ขอรับการช่วยเหลือ ลงทะเบียนขอรับความช่วยเหลือได้ตั้งแต่วันนี้ (1ธ.ค.) เป็นต้นไป

โดยบรรยากาศที่เขตห้วยขวาง ตั้งแต่เวลา 09.00 น. ได้มีประชาชนที่เป็นลูกหนี้นอกระบบ เดินทางมารอเพื่อลงทะเบียนกันตั้งแต่เช้า อีกทั้ง พบว่าลูกหนี้รายแรกที่มาขึ้นทะเบียน เป็นหนี้ในระบบ 7.9 ล้านบาท โดยมาขอขึ้นทะเบียนเข้าร่วมโครงการ เนื่องจากมองว่าสัญญากู้ของตนไม่เป็นธรรม เจ้าหน้าที่ได้แนะนำว่าสามารถขึ้นทะเบียนไว้ก่อนได้ แต่จะได้รับเลือกให้เข้าร่วมโครงการหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของกรมการปกครอง

ขณะที่ นางเอ (นามสมมติ) หนึ่งในประชาชนที่เดินทางมาขึ้นทะเบียน กล่าวว่า ส่วนตัวเป็นหนี้ทั้งในระบบและนอกระบบมานานหลายปี ซึ่งหนี้นอกระบบนั้น ได้กู้จากเพื่อนบ้านและกลุ่มหมวกกันน็อก รวมประมาณ 3-4 หมื่นบาท อัตราดอกเบี้ยของกลุ่มหมวกกันน็อค ร้อยละ 20 ส่วนเพื่อนบ้านอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 10 และยังเป็นหนี้ในระบบที่กู้มาหลักแสนบาท ซึ่งที่ผ่านมาได้ชำระเงินต้นและดอกเบี้ยมาได้ประมาณ 1 ปี แต่ยอดหนี้ก็ยังไม่ลดลง ทำให้ปัจจุบันจึงตัดสินใจไม่ชำระหนี้ของธนาคารต่อ เพราะสามารถหาเงินมาจ่ายได้แค่หนี้นอกระบบเท่านั้น  

วนโครงการของรัฐบาลที่เปิดช่องทางช่วยเหลือลูกหนี้ แม้จะเป็นโครงการที่ดีของรัฐบาลแต่ส่วนตัวยอมรับว่ามีความกังวลผลกระทบที่จะตามมา และเชื่อว่าหากมีการเรียกมาไกล่เกลี่ย จะไม่มีเจ้าหนี้คนใดยอมมา จึงอยากฝากถึงรัฐบาลว่าหากต้องการแก้ไขให้ตรงจุด รัฐบาลควรที่จะปล่อยเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ เพื่อให้ลูกหนี้เปลี่ยนมาเป็นหนี้ในระบบกับรัฐบาลแทน เนื่องจากกลุ่มอาชีพอิสระ จะกู้เงินในระบบกับธนาคารเป็นเรื่องยาก เพราะไม่มีเอกสารสลิปเงินเดือน

ด้าน “นายไพฑูรย์ งามมุข” ผู้อำนวยการเขตห้วยขวาง กล่าวย้ำถึงผู้ที่จะเดินทางมาลงทะเบียนที่สำนักงานเขตนั้น โดยเอกสารสำคัญที่ลูกหนี้จะต้องเอามา คือ หลักฐานการเป็นหนี้และบัตรประชาชน ซึ่งในส่วนของรายใดที่นำเอกสารหลักฐานส่วนตัวมาไม่ครบ ทางเจ้าหน้าที่จะลุ่มอล่วยให้สามารถนำมายื่นภายหลังได้ เพราะมีข้อมูลเบื้องต้นจากการมาขึ้นทะเบียนวันนี้ในระบบแล้ว  

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของเขตห้วยขวางก่อนหน้านี้ ได้ทำโครงการช่วยไกล่เกลี่ยหนี้ ซึ่งมีประชาชนที่เป็นลูกหนี้นอกระบบในเขตห้วยขวาง มาเข้าร่วมโครงการประมาณ 50 ราย ส่วนใหญ่มีอาชีพเป็นพ่อค้าแม่ค้าในตลาด เป็นหนี้ตั้งแต่ 5,000 บาท และมากสุด 500,000 บาท โดยมีอัตราดอกเบี้ยรายวันจากการกู้ยืมนอกระบบ ร้อยละ 20 ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนมั่นใจในเรื่องของความปลอดภัย หากมาลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการนี้ เพราะจะมีตำรวจและเจ้าหน้าที่หน่วยงานฝ่ายความมั่นคง ให้ความช่วยเหลือและดูแล

อนึ่ง สำหรับการลงทะเบียนลูกหนี้นอกระบบ รัฐบาลเปิดให้ประชาชนสามารถลงทะเบียนเพื่อให้เจ้าหน้าที่เข้าไปช่วยไกล่เกลี่ย ได้ตั้งแต่วันนี้ ไปจนถึงวันที่ 29 ก.พ. 2567 โดยลูกหนี้สามารถลงทะเบียน ได้ที่ว่าการอำเภอทุกแห่งทั่วประเทศ ส่วนในกรุงเทพมหานคร ลงทะเบียนได้ที่สำนักงานเขตทุกแห่ง และยังเปิดให้ลงทะเบียนผ่านช่องทางออนไลน์ แอปพลิเคชัน ThaID และสายด่วนศูนย์ดำรงธรรม หมายเลข 1567 

ด้าน “น.ส.ไตรศุลี ไตรสณกุล” เลขานุการ รมว.มหาดไทย และโฆษกกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า กรมการปกครอง ได้รายงานให้ นายอนุทิน ทราบผลการลงทะเบีบนแก้ปัญหาหนี้นอกระบบ ผ่านทั้งระบบออนไลน์ที่เว็บไซต์ https://debt.dopa.go.th และวอล์คอินไปลงทะเบียน ณ ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด ศูนย์ดำรงธรรมอำเภอ ณ ที่ว่าการอำเภอทุกแห่ง และสำนักงานเขตทุกแห่งสำหรับผู้อาศัยในกรุงเทพมหานคร ในวันแรก เป็นไปด้วยความเรียบร้อย

กำลังโหลด

“มท.1″ย้ำอีกครั้งเปิดลงทะเบียนเพื่อแก้ไม่ใช่ยกหนี้นอกระบบ

"มท.1"ย้ำอีกครั้งเปิดลงทะเบียนเพื่อแก้ไม่ใช่ยกหนี้นอกระบบ

01 ธันวาคม 2566

613

“อนุทิน” ย้ำลูกหนี้อย่าดีใจเปิดลงทะเบียนแก้หนี้นอกระบบ หวังช่วยไกล่เกลี่ยให้เกิดความเป็นธรรมทุกฝ่าย ด้านเจ้าหน้าที่เขตแนะเตรียมบัตรประชาชน โดยเฉพาะหลักฐานการเป็นหนี้ให้พร้อม

1 ธันวาคม 2566 ถือเป็นวันแรกในการคิกออฟเปิดให้ประชาชนลงทะเบียนทั้งทางออนไลน์และวอล์คอิน เพื่อแสดงตัวตน ขอแก้หนี้นอกระบบ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งโครงการที่รัฐบาล นำโดย “นายเศรษฐา ทวีสิน” นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง กับความพยายามคืนศักดิ์ศรีและรอยยิ้ม เพราะคือหนึ่งปัญหาใหญ่ที่กัดกร่อนสังคมไทยตลอดมา

โดย “นายอนุทิน ชาญวีรกูล” รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย กล่าวว่า การเปิดให้ผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนจากปัญหาหนี้นอกระบบ ลงทะเบียน เพื่อขอความช่วยเหลือจากกลไกของรัฐ วันแรก สามารถทำได้ 3 ช่องทาง คือ

  • ศูนย์ดำรงธรรมของจังหวัด
  • ที่ว่าการอำเภอ
  • ผ่านออนไลน์ โดยทางอำเภอจะลงพื้นที่สำรวจในพื้นที่ชุมชนและหมู่บ้าน

ส่วนปัญหาเจ้าหนี้กลัวถูกตรวจสอบภาษี จนไม่กล้ามาไกล่เกลี่ยกับลูกหนี้นั้น โดยรัฐบาลต้องการให้เกิดความเป็นธรรม และย้ำว่าโครงการนี้ไม่ใช่การลดหนี้ ยกหนี้ พักหนี้ และไม่ได้ใช้หนี้ให้ แต่เป็นการให้ความเป็นธรรมกับเจ้าหนี้และลูกหนี้ ซึ่งถ้าคิดดอกเบี้ยที่เป็นธรรม ลูกหนี้ก็จะสามารถใช้หนี้ได้ เจ้าหนี้ก็ไม่ถูกเบี้ยวหนี้ เจ้าหนี้ไม่ต้องไปกดดัน กดขี่ ข่มเหง หรือใช้วิธีทวงหนี้ที่ผิดกฎหมาย ซึ่งเป็นเจตนารมณ์ของรัฐบาล ที่ต้องการให้เกิดความเป็นธรรม ไม่เสียหายกับลูกหนี้และเจ้าหนี้ ยืนยันลูกหนี้ยังเป็นหนี้อยู่ โดยมีอัตราดอกเบี้ยที่สามารถหามาใช้ได้

เริ่มแล้ว “ลงทะเบียนแก้หนี้นอกระบบ” ดูขั้นตอนง่ายๆ ทำได้ด้วยตัวเอง

ใครเป็นหนี้และอยากได้รับการช่วยเหลือรัฐเปิดลงทะเบียนทั่วประเทศ 1 ธ.ค.นี้

ผู้ว่าฯ สงขลารับลูกการแก้หนี้นอกระบบ ด้าน ปชช.เห็นแย้ง ทำไม่ได้

ส่วนกรอบเวลาที่จะเห็นผลสำเร็จของการแก้หนี้นั้น ขอให้รอฟังรายละเอียดในวันที่ 8 ธ.ค. โดย “นายเศรษฐา ทวีสิน” นายกรัฐมนตรี จะเป็นประธาน Kick Off กับหน่วยงานที่จะดำเนินการ คือ นายอำเภอ และ ผู้กำกับสถานีตำรวจภูธรทั่วประเทศ ซึ่งจะจัดขึ้นที่เมืองทองธานี พร้อมย้ำว่า การแก้หนี้เป็นขั้นตอนการไกล่เกลี่ย ไม่ได้มีเจตนาที่จะขุดคุ้ยปูมหลัง ขออย่าเป็นกังวล เป็นเรื่องของหน่วยงานอื่น เพราะไม่มีเวลาไปขยายผลเรื่องอื่นๆ

สำหรับกระบวนการไกล่เกลี่ยนั้น เชื่อว่าเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน มีทั้งศาสตร์และศิลป์ ในการเข้าไกล่เกลี่ย ประนีประนอม คงไม่มีวิธีการเป็นขั้นตอนที่ชัดเจน หากเมื่อมีการไกล่เกลี่ยแล้ว เจ้าหนี้ไม่ยอมมาไกล่เกลี่ย ก็ต้องเอาสัญญากู้เงินมาดู ถ้าตรงไหนขัดต่อกฎหมาย ก็ไม่ต้องปฏิบัติตาม และจะมีการคุ้มครองให้เกิดความเป็นธรรม แต่ถ้าเจ้าหนี้ยังคิดดอกเบี้ยในอัตราที่สูง จนเกินความสามารถที่ลูกหนี้จะชำระหนี้ได้นั้น ส่วนนั้นก็จะหายไป แต่โครงการของรัฐบาลจะให้วินวินทั้งสองฝ่าย คือ เจ้าหนี้ได้เงินคืน ไม่มีการเบี้ยวหนี้ ลูกหนี้ก็จะได้อัตราดอกเบี้ยที่ลดลง ซึ่งจะเกิดความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย

“ผมย้ำว่า ลูกหนี้อย่าดีใจ เพราะไม่ใช่การพักหนี้ ลูกหนี้ต้องจ่ายทุกบาท ทุกสตางค์ และที่เข้าใจว่ารัฐบาลจะจ่ายหนี้ให้นั้นไม่ใช่ แต่เป็นการช่วยลดอัตราดอกเบี้ย เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมมากกว่า ขอให้ช่วยประชาสัมพันธ์ด้วย จะได้ไม่เข้าใจผิด ย้ำว่าหนี้ใครหนี้มัน” นายอนุทิน ระบุ

ออมสินขานรับนโยบายรัฐ “แก้หนี้นอกระบบ” ปล่อยกู้ 5 หมื่นบาทต่อราย

นายกฯ ดึง ปกครอง-คลัง-ตำรวจ แก้หนี้นอกระบบ

สำหรับบรรยากาศการเปิดให้ลงทะเบียนวันแรกนั้น หลังกระทรวงมหาดไทย สั่งการให้แต่ละจังหวัดจัดตั้ง “ศูนย์อำนวยการแก้ไขหนี้นอกระบบ” เพื่อให้ลูกหนี้นอกระบบที่มีความประสงค์ขอรับการช่วยเหลือ ลงทะเบียนขอรับความช่วยเหลือได้ตั้งแต่วันนี้ (1ธ.ค.) เป็นต้นไป

โดยบรรยากาศที่เขตห้วยขวาง ตั้งแต่เวลา 09.00 น. ได้มีประชาชนที่เป็นลูกหนี้นอกระบบ เดินทางมารอเพื่อลงทะเบียนกันตั้งแต่เช้า อีกทั้ง พบว่าลูกหนี้รายแรกที่มาขึ้นทะเบียน เป็นหนี้ในระบบ 7.9 ล้านบาท โดยมาขอขึ้นทะเบียนเข้าร่วมโครงการ เนื่องจากมองว่าสัญญากู้ของตนไม่เป็นธรรม เจ้าหน้าที่ได้แนะนำว่าสามารถขึ้นทะเบียนไว้ก่อนได้ แต่จะได้รับเลือกให้เข้าร่วมโครงการหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของกรมการปกครอง

ขณะที่ นางเอ (นามสมมติ) หนึ่งในประชาชนที่เดินทางมาขึ้นทะเบียน กล่าวว่า ส่วนตัวเป็นหนี้ทั้งในระบบและนอกระบบมานานหลายปี ซึ่งหนี้นอกระบบนั้น ได้กู้จากเพื่อนบ้านและกลุ่มหมวกกันน็อก รวมประมาณ 3-4 หมื่นบาท อัตราดอกเบี้ยของกลุ่มหมวกกันน็อค ร้อยละ 20 ส่วนเพื่อนบ้านอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 10 และยังเป็นหนี้ในระบบที่กู้มาหลักแสนบาท ซึ่งที่ผ่านมาได้ชำระเงินต้นและดอกเบี้ยมาได้ประมาณ 1 ปี แต่ยอดหนี้ก็ยังไม่ลดลง ทำให้ปัจจุบันจึงตัดสินใจไม่ชำระหนี้ของธนาคารต่อ เพราะสามารถหาเงินมาจ่ายได้แค่หนี้นอกระบบเท่านั้น  

“หนี้นอกระบบก็จ่ายได้แค่เฉพาะดอกเบี้ย วันละ 1,200 บาท ในขณะที่มีรายได้จากการขายของ เพียง 500-600 บาทเท่านั้น ทำให้บางวันต้องไปยืมจากคนใกล้ตัว เพื่อมาจ่ายดอกเบี้ยหนี้นอกระบบ” นางเอ ระบุ 

ส่วนโครงการของรัฐบาลที่เปิดช่องทางช่วยเหลือลูกหนี้ แม้จะเป็นโครงการที่ดีของรัฐบาลแต่ส่วนตัวยอมรับว่ามีความกังวลผลกระทบที่จะตามมา และเชื่อว่าหากมีการเรียกมาไกล่เกลี่ย จะไม่มีเจ้าหนี้คนใดยอมมา จึงอยากฝากถึงรัฐบาลว่าหากต้องการแก้ไขให้ตรงจุด รัฐบาลควรที่จะปล่อยเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ เพื่อให้ลูกหนี้เปลี่ยนมาเป็นหนี้ในระบบกับรัฐบาลแทน เนื่องจากกลุ่มอาชีพอิสระ จะกู้เงินในระบบกับธนาคารเป็นเรื่องยาก เพราะไม่มีเอกสารสลิปเงินเดือน

ด้าน “นายไพฑูรย์ งามมุข” ผู้อำนวยการเขตห้วยขวาง กล่าวย้ำถึงผู้ที่จะเดินทางมาลงทะเบียนที่สำนักงานเขตนั้น โดยเอกสารสำคัญที่ลูกหนี้จะต้องเอามา คือ หลักฐานการเป็นหนี้และบัตรประชาชน ซึ่งในส่วนของรายใดที่นำเอกสารหลักฐานส่วนตัวมาไม่ครบ ทางเจ้าหน้าที่จะลุ่มอล่วยให้สามารถนำมายื่นภายหลังได้ เพราะมีข้อมูลเบื้องต้นจากการมาขึ้นทะเบียนวันนี้ในระบบแล้ว  

“แต่ปัญหาหลักที่พบคือเรื่องของหลักฐานการเป็นหนี้ เพราะส่วนใหญ่คนที่เป็นหนี้นอกระบบ มักจะไม่มีเอกสารหลักฐานที่เป็นทางการ และไม่ทราบข้อมูลของเจ้าหนี้ จึงอยากย้ำว่ามีความสำคัญมาก เพราะหากไม่มีหลักฐานการเป็นหนี้ ก็จะไม่สามารถช่วยแก้หนี้ให้ได้ หากลูกหนี้นอกระบบไม่มีเอกสารหลักฐาน ก็ขอให้นำตัวพยานบุคคล เพื่อมายืนยันว่าเป็นหนี้จริง” นายไพฑูรย์ กล่าว 

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของเขตห้วยขวางก่อนหน้านี้ ได้ทำโครงการช่วยไกล่เกลี่ยหนี้ ซึ่งมีประชาชนที่เป็นลูกหนี้นอกระบบในเขตห้วยขวาง มาเข้าร่วมโครงการประมาณ 50 ราย ส่วนใหญ่มีอาชีพเป็นพ่อค้าแม่ค้าในตลาด เป็นหนี้ตั้งแต่ 5,000 บาท และมากสุด 500,000 บาท โดยมีอัตราดอกเบี้ยรายวันจากการกู้ยืมนอกระบบ ร้อยละ 20 ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนมั่นใจในเรื่องของความปลอดภัย หากมาลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการนี้ เพราะจะมีตำรวจและเจ้าหน้าที่หน่วยงานฝ่ายความมั่นคง ให้ความช่วยเหลือและดูแล

อนึ่ง สำหรับการลงทะเบียนลูกหนี้นอกระบบ รัฐบาลเปิดให้ประชาชนสามารถลงทะเบียนเพื่อให้เจ้าหน้าที่เข้าไปช่วยไกล่เกลี่ย ได้ตั้งแต่วันนี้ ไปจนถึงวันที่ 29 ก.พ. 2567 โดยลูกหนี้สามารถลงทะเบียน ได้ที่ว่าการอำเภอทุกแห่งทั่วประเทศ ส่วนในกรุงเทพมหานคร ลงทะเบียนได้ที่สำนักงานเขตทุกแห่ง และยังเปิดให้ลงทะเบียนผ่านช่องทางออนไลน์ แอปพลิเคชัน ThaID และสายด่วนศูนย์ดำรงธรรม หมายเลข 1567 

ด้าน “น.ส.ไตรศุลี ไตรสณกุล” เลขานุการ รมว.มหาดไทย และโฆษกกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า กรมการปกครอง ได้รายงานให้ นายอนุทิน ทราบผลการลงทะเบีบนแก้ปัญหาหนี้นอกระบบ ผ่านทั้งระบบออนไลน์ที่เว็บไซต์ https://debt.dopa.go.th และวอล์คอินไปลงทะเบียน ณ ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด ศูนย์ดำรงธรรมอำเภอ ณ ที่ว่าการอำเภอทุกแห่ง และสำนักงานเขตทุกแห่งสำหรับผู้อาศัยในกรุงเทพมหานคร ในวันแรก เป็นไปด้วยความเรียบร้อย

โดยประชาชนทั่วประเทศทั้ง 77 จังหวัด ให้ความสนใจลงทะเบียน รวม 22,090 ราย ส่วนใหญ่เป็นการลงทะเบียนผ่านระบบออนไลน์ 21,001 ราย วอล์คอิน 1,089 ราย จำนวนเจ้าหนี้ 11,539 ราย ยอดหนี้รวม 935.31 ล้านบาท จังหวัดที่มีผู้ลงทะเบียนสูงที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่

  1. กรุงเทพมหานคร 1,529 ราย เจ้าหนี้ 879 ราย ยอดหนี้รวม 78.48 ล้านบาท
  2. สงขลา 959 ราย เจ้าหนี้ 507 ราย ยอดหนี้รวม 55.36 ล้านบาท
  3. นครศรีธรรมราช 910 ราย เจ้าหนี้ 557 ราย ยอดหนี้รวม 27.64 ล้านบาท
  4. นครราชสีมา 822 ราย เจ้าหนี้ 351 ราย ยอดหนี้รวม 23.53 ล้านบาท
  5. สมุทรปราการ 572 ราย เจ้าหนี้ 293 ราย ยอดหนี้รวม 23.70 ล้านบาท

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *