เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 12 ตุลาคม 2568 ทีวัดดงเศรษฐี หมู่ 2 ต.หมกแถว อ.หนองขาหย่าง จ.อุทัยธานี คุณสิรนาท บางสมบุญ อัยการจังหวัดคดีเยาวชน จังหวัดพิจิตร ประธานฝ่ายฆราวาส โดยมีนายอภิชาต เอี่ยมประไพ ปลัดเทศบาลตำบลบางประมุง อ.โกรกพระ จ.นครสวรรค์ พร้อมกลุ่มชอปเปอร์ และกลุ่มชอปเปอร์หวานเย็นไรเดอร์ พร้อมประชาชนทั่วสารทิศ ได้นำช่อกฐินมาร่วมทำบุญสร้างอุโบสถ์ โดยได้มีการเดินวนรอบวิหารหลวงหลวงพ่อเคน (พรหมโชโต) อดีตเกจิดัง เจ้าอาวาสวัดดงเศรษฐี 9 รอบ โดยภายในงานได้มีประชาชนหลายพื้นที่นำอาหาร คาวหวาน มาร่วมเป็นเจ้าภาพโรงทาน หลายสิบร้าน
โดยมีประธานฝ่ายสงฆ์ พระครูโฆสิตพัฒนคุณ รองเจ้าคณะอำเภอสรรคบุรี เจ้าอาวาสวัดโฆสิตตาราม หรือประชาชนรู้จักวัดหลวงกวย เกจิดังแห่ง จ.ชัยนาท พร้มกับนำเงินมาร่วมสมทบทุนในการสร้างอุโบสถจำนวน สามแสนกว่าบาท พร้อมกับนายวิฑูรย์ พิพัฒน์นะกุล นายฉัตรวัต ศรีธนะเวทย์ ทีปรึกษาประธานคณะกรรมการ การแรงงาน นำเงินมาสมทบทุนสร้างอุโบสถอีกจำนวน ห้าหมื่นกว่าบาท
ด้านพระอธิการ พระพงศ์ศักดิ์ (หรือหลวงพี่โจ) หฏฐจิตโต เจ้าอาวาสวัดเศรษฐี กล่าวว่า สืบเนื่องจากวัดได้ดำเนินการก่อสร้างอุโบสถ หลังแรก อยู่ในขณะนี้ เพื่อให้พระสงฆ์ ใช้ประชุมสังฆกรรมต่าง ๆ ตามพระวินัยและบำรุงพระพุทธศาสนา แต่ยังขาดปัจจัยในการดำเนินงานก่อสร้างอีกมาก ทางคณะสงฆ์ และชาวบ้านวัดดงเศรษฐี จึงได้ร่วมกันลงมติจัดงานทอดกฐินสามัคคีขึ้น เพื่อบอกบุญ กับผู้มีจิตศรัทธา เป็นเจ้าภาพสร้างอุโบสถ์หลังแรกขึ้นมา
พระอธิการพงศ์ศักดิ์ (หรือหลวงพี่โจ) กล่าวต่ออีกว่า หลวงพ่อเคน (พรหมโชโต) อดีตเจ้าอาวาส วัดดงเศรษฐี ตามประวัติทราบว่าท่านเป็นชาว จังหวัดอุบลราชธานี ท่านเกิดที่ ตำบลหัวเรือ อำเภอเมืองอุบลราชธานี ส่วนวันเดือนปีเกิดของท่าน ญาติพี่น้อง ตลอดจนบิดามารดา ของท่านนั้นไม่มีใครทราบ เพราะตั้งแต่ท่านมาอยู่จังหวัดอุทัยธานีนั้น ยังไม่เคยมีญาติพี่น้องไปมาหาสู่กันเลย หลวงพ่อเคนท่านได้เดินธุดงค์มากับพระธุดงค์รุ่นเดียวกัน ๔ รูปด้วยกัน
เท่าที่ทราบก็มี อดีตเจ้าอาวาสวัดอมฤตวารีหรือวัดหนองน้ำคัน อีกองค์ก็คือ หลวงพ่อจู เจ้าอาวาสวัดดอนกลอย อำเภอหนองขาหย่าง ส่วนอีกองค์นั้นไม่ทราบ ว่าเป็นใครและไปอยู่ที่วัดใด นับเป็นเวลาร้อยปีเศษที่ท่านได้เข้ามาอยู่ที่จังหวัดอุทัยธานี
หลวงพ่อเคน ก่อนที่ท่านจะเข้ามาอยู่ที่วัดดงเศรษฐีนั้นไม่ทราบ ว่าท่านได้อยู่ที่ใดมาก่อนบ้าง ก่อนที่หลวงพ่อเคน ท่านจะมาอยู่ที่บ้านดงเศรษฐีนั้น บริเวณบ้านดงเศรษฐียังเต็มไปด้วยป่าไม้น้อยใหญ่ ชาวบ้านได้นิมนต์ให้หลวงพ่อท่าน พักอาศัยอยู่ที่นั้นเป็นเวลานานพอสมควร แล้วท่านก็ได้ปรึกษากับชาวบ้านร่วมกันสร้างวัดดงเศรษฐีขึ้นมา โดยได้บุกเบิกป่าเป็นที่นาของวัด เพื่อปลูกข้าวไว้สำหรับให้พระภิกษุได้ฉัน พร้อมทั้งได้เลี้ยงวัว ควาย และม้าไว้หลายตัว
ประวัติของหลวงพ่อเคน นั้นฉันเหล้าเป็นประจำ แต่ชาวบ้านก็ไม่ได้ถือสาท่าน เพราะท่านมีวิชาอาคมเข้มขลัง มีวาจาศักดิ์สิทธิ์ เป็นเกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียงมากองค์หนึ่งในขณะนั้น ท่านมีวิชาน้ำมนต์ที่เข้มขลัง สามารถที่จะรักษาโรคกระดูกหัก กระดูกแตก แผล ท่านจะรักษาให้หาย วิเศษนัก อัศจรรย์ยิ่งจนเป็นที่เลื่องลือ
หลวงพ่อเคน มีลูกศิษย์ที่สำคัญ ๆ อยู่หลายองค์ ทั้งในแถบจังหวัดอุทัยธานี ชัยนาทไปจนถึงสิงห์บุรี เป็นต้นว่าเช่น หลวงพ่อกวย วัดโฆสิตาราม จ.ชัยนาท หลวงปู่ปรง สาสโน วัดธรรมเจดีย์ จ.สิงห์บุรี ในจังหวัดอุทัยธานี พระเกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียงในปัจจุบัน ล้วนเป็นศิษย์ของหลวงพ่อเคนแทบทั้งสิ้น เช่น หลวงปู่ตี๋ วัดหลวงราชาวาส หลวงพ่อหล้า วัดดงขวาง หลวงพ่อปลั่ง วัดห้วยรอบ อดีตเจ้าคณะอำเภอหนองขาหย่าง แม้กระทั่ง ท่านเจ้าคุณพุฒ (พระราชอุทัยกวี) เจ้าคณะจังหวัดอุทัยธานี หลวงพ่อปลั่ง หลวงพ่อหล้า หลวงพ่อกวย หลวงปู่ปรง หลวงปู่ตี๋ ได้เรียนวิชากับหลวงพ่อเคนได้มากมายหลายอย่าง ความขลังความศักดิ์สิทธิ์ เกี่ยวกับน้ำมนต์ ของหลวงพ่อเคนนี้ มีชื่อเสียงโด่งดัง ขจรขจายไปทั่วทุกสารทิศ จึงเป็นทีนับถือของประชาชนทั่วไปที่ทราบข่าว
ต่อมาหลวงพ่อเคนได้เกิดอาการป่วย ด้วยโรคชรา และมรณภาพลงในปี ๒๔๙๑ รวมอายุได้ ๑๐๗ ปี ทีวัดดงเศรษฐี ดังกล่าว
//////////////////
นายพชร พัสกุล สมาคมสื่อมวลชนอุทัยธานี
